ภาพการประชุม (VNA)

ในการนี้ นาย เจิ่นก๊วกแค้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า ในสภาวการณ์ที่ลัทธิคุ้มครองการค้ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เวียดนามยืนหยัดสนับสนุนความสัมพันธ์พหุภาคีบนหลักการที่เสมอต้นเสมอปลาย พร้อมทั้งยืนยันว่า เวียดนามและอียูคือหุ้นส่วนที่สำคัญ เวียดนามชื่นชมผลประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากข้อตกลงเหล่านี้ เช่น การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการค้า การขยายการลงทุนด้านคมนาคมและขนส่งของยุโรปในเวียดนามและการยกระดับมาตรฐานของเวียดนามให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลก

ส่วนนาง Helena Konig หัวหน้าคณะเจรจาอียูและรองอธิบดีกรมการค้ายุโรปได้ย้ำถึงความสำคัญของข้อตกลงเอฟทีเอและ IPA ระหว่างอียูกับเวียดนาม พร้อมทั้งยืนยันถึงจุดแข็งต่างๆของเวียดนาม เช่น ศักยภาพการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและตลาดที่มีประชากร 95 ล้านคน ซึ่ง EVFTA จะช่วยสถานประกอบการยุโรปเข้าถึงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวียดนาม ส่วนข้อตกลง IPA จะช่วยปกป้องนักลงทุนยุโรปที่กำลังประกอบธุรกิจในเวียดนาม

ส่วนวิทยากรหลายคนได้ให้ข้อสังเกตว่า EVFTA คือโอกาสที่ดีเพื่อกระชับความร่วมมือในการอนุรักษ์ป่า การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การส่งออกผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษระหว่างอียูกับเวียดนามเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน นาย Nicolas Audier ประธานสมาคมสถานประกอบการยุโรป หรือ Eurocham ได้ประเมินว่า การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพิจารณาอนุมัติข้อตกลงนี้ในรัฐสภายุโรป.