การเยือนของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของเวียดนามต่อปัญหาส่วนรวม

(VOVWORLD) - นี่คือคำยืนยันของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม บุ่ยแทงเซินเกี่ยวกับผลการเยือนประเทศออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์กและสหภาพยุโรปหรืออียู การเข้าร่วมการประชุมระดับสูงอาเซมครั้งที่12และการประชุมสุดยอดหุ้นส่วนเพื่อการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป้าหมายต่างๆของโลกจนถึงปี2030หรือP4Gในระหว่างวันที่14-20ตุลาคม 

การเยือนของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของเวียดนามต่อปัญหาส่วนรวม - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเวียดนาม  เหงวียนซวนฟุก (Photo: TTXVN)

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้มีบทปราศรัย70บทและเข้าร่วม50กิจกรรม เช่น การสนทนากับนายกรัฐมนตรีของประเทศที่เข้าร่วมฟอรั่มและการเสวนาโต๊ะกลมกับผู้ประกอบการ ให้การต้อนรับผู้บริหารเครือบริษัทชั้นนำของอียู พบปะกับตัวแทนชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้ง หารือกับหุ้นส่วนต่างๆเกี่ยวกับแนวทางการขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกด้าน เช่น การเมือง การค้า การลงทุน กลาโหม พลังงาน ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความร่วมมือในฟอรั่มพหุภาคี

สำหรับอียู เวียดนามได้หารือมาตรการขยายความร่วมมือในการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน อียูให้การสนับสนุนความพยายามของเวียดนามในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ไม่มีการรายงานและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือ IUU มุ่งสู่การยกเลิกใบเหลืองของอียูต่อสัตว์น้ำเวียดนาม อียูและเวียดนามพยายามผลักดันการลงนาม อนุมัติและปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูและข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเพื่อใช้โอกาสจากข้อตกลงดังกล่าว

จากการเป็นสมาชิกที่ก่อตั้งอาเซมและP4G คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้มีส่วนร่วมที่สำคัญต่อผลสำเร็จของการประชุมครั้งนี้ ในการประชุมอาเซมครั้งที่12 บรรดาประเทศสมาชิกได้ชื่นชมข้อเสนอต่างๆของเวียดนามเพื่อยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนเอเชีย-ยุโรปในทศวรรษที่3 โดยเฉพาะ ชื่นชมบทบาทเดินหน้าของอาเซมในการขยายความร่วมมือพหุภาคีและการรับมือกับความท้าทายต่างๆในโลก ข้อเสนอของเวียดนามเกี่ยวกับการส่งเสริมการสนทนา ความร่วมมือเพื่อธำรงสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ ปัญหาทะเลตะวันออก

ส่วนในการประชุมP4G นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำถึงความสำคัญของการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและจะยืนยันว่า เวียดนามจะร่วมมือกับรัฐบาลประเทศสมาชิกในการปฏิบัติเป้าหมายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในโลกจนถึงปี2030.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด