ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – อินโดนีเซียให้นับวันลึกซึ้งและสมบูรณ์มากขึ้น

(VOVWORLD) - วันที่ 17 เมษายน ณ กรุงฮานอย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย Retno Marsudi และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามฝามบิ่งมิงห์ได้เป็นประธานร่วมในการประชุมครั้งที่ 3 คณะกรรมการร่วมมือทวิภาคีเวียดนาม – อินโดนีเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันที่จะขยายความร่วมมือในด้านสำคัญๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจและการค้า สนันสนุนกันเพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารและขยายความร่วมมือด้านเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำ โดยเน้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กาแฟ ยางพารา อาหารสัตว์ สัตว์น้ำและไม้เป็นวัสดุ เป็นต้น
ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – อินโดนีเซียให้นับวันลึกซึ้งและสมบูรณ์มากขึ้น - ảnh 1ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – อินโดนีเซียให้นับวันลึกซึ้งและสมบูรณ์มากขึ้น 

สำหรับความมั่นคงด้านกลาโหม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ปฏิบัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างสองประเทศระยะปี 2017-2022 จัดทำกลไกการสนทนากลาโหมระดับรัฐมนตรีช่วย สนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคี ร่วมมือขจัดภัยคุกคามจากการก่อการร้าย โจรสลัด อาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันแก้ไขปัญหาชาวประมงและเรือประมงละเมิดเขตน่านน้ำของกันตามกฎหมายของประเทศตนบนเจตนารมณ์แห่งมนุษยธรรมและความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งเห็นพ้องที่จะจัดทำกลไกการประสานงานอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพในการปกป้องชาวประมง เรือประมงและต่อต้านอาชญากรรมทางทะเลโดยเร็ว ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ฝามบิ่งมิงห์เผยว่า            “เวียดนามให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนและการประสานงานอย่างใกล้ชิดของอินโดนีเซียในปีที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพของการประชุมเอเปก 2017 เราได้หารือเกี่ยวกับมาตรการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินและแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธี ให้ความเคารพต่อกระบวนการทางการทูตและนิตินัยที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติแถลงการเกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และบรรลุการจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว”

ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียได้เผยว่า ทางกระทรวงฯจะส่งเสริมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอินโดนีเซียผลักดันการนำเข้าผลไม้สด เช่น แก้วมังกร ลิ้นจี่ ลำไยและลูกน้ำนมจากเวีดนาม ทั้งสองฝ่ายได้มีกลไกขยายความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะในด้านขนส่งทางทะเลและสัตว์น้ำ พร้อมทั้งเพิ่มการเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศผ่านการเพิ่มเที่ยวบินตรงจากกรุงจาการ์ตาไปยังนครโฮจิมินห์และนครอื่นๆของเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด