ข่าวเกี่ยวกับกรณีนักข่าวคาช็อกกีถูกสังหาร

(VOVWORLD) -วันที่ 24 ตุลาคม ประธานาธิบดีตุรกี รีเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบียเพื่อหารือเกี่ยวกับการประสานงานในการสืบสวนการสังหารนักข่าวคาซ็อกกี ซึ่งเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์ครั้งแรกระหว่างผู้นำสองประเทศนับตั้งแต่ที่เกิดเหตุดังกล่าว

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงตรัสว่า นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าและความยุติธรรมจะชนะ โดยผู้ก่อเหตุจะถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด ซาอุดิอาระเบียจะประสานงานกับตุรกีอย่างมีประสิทธิภาพในการสืบสวนนี้

ในวันเดียวกัน นิตยสาร Sabah ของตุรกีได้ลงข่าวว่า หน่วยข่าวกรองของตุรกีได้พูดคุยเกี่ยวกับหลักฐานทั้งหมดกับผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐหรือซีไอเอ Gina Haspel ที่เดินทางไปยังตุรกีเพื่อแก้ไขคดีนี้

ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ได้ประกาศว่า จะยกเลิกวีซ่าของผู้ต้องสงสัยทุกคนและยืนยันว่า จะไม่ให้เข้าประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านั้น สหรัฐก็ประกาศว่า จะยกเลิกวีซ่าของเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียประมาณ 20 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ส่วนออสเตรเลียยังคงพิจารณาคำสั่งห้ามขายอาวุธให้แก่ซาอุดิอาระเบียและลดความสำคัญขอฃข้อตกลงอุตสาหกรรมกลาโหมที่ทำไว้กับซาอุดิอาระเบีย

นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้เผยว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ในฐานะผู้นำประเทศแต่ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal เมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้เผยว่า ตนเชื่อว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ไม่ได้รู้เห็นกรณีดังกล่าว ส่วนประเทศฝรั่งเศสได้ประกาศว่า จะไม่รีบตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างฝรั่งเศสกับซาอุดิอาระเบียจนกว่าการเสียชีวิตของนักข่าวคาช็อกกีจะมีความกระจ่างแจ้ง นายกรัฐมนตรีสเปนได้เผยว่า รัฐบาลสเปนยังคงปฏิบัติตามสัญญาชื้อขายอาวุธที่ทำไว้กับซาอุดิอาระเบียก่อนหน้านี้แม้ตนมีความผิดหวังเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารนักข่าวดังกล่าว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด