นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก สนทนากับเกษตรกร

(VOVWORLD) -เช้าวันที่9เมษายน ณ นครหายเยือง นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีการสนทนากับเกษตรกรภายใต้หัวข้อ “การแก้ไขอุปสรรค สร้างพลังขับเคลื่อนและสารต่อผลการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในตลอด30ปีที่ผ่านมา” โดยมีนาย หวูดึ๊กดาม รองนายกรัฐมนตรี นาง เจืองถิมาย หัวหน้าคณะกรรมการรณรงค์มวลชนส่วนกลาง ผู้บริหารกระทรวง หน่วยงาน สมาคมเกษตรกรของจังหวัดและนคร ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์และผู้ประกอบการ600คนเข้าร่วม
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก สนทนากับเกษตรกร - ảnh 1นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก สนทนากับเกษตรกร 

คณะกรรมการจัดงานได้เผยว่า ได้รับคำถาม1000คำถามของเกษตรกรและประชาชนที่ส่งถึงท่านนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับตลาดสินค้าการเกษตร นโยบายด้านเงินทุน ที่ดินทำการเกษตร เทคโนโลยีและ การบริหารอุปกรณ์การเกษตร แรงงานชนบทและชนบทใหม่  ซึ่งนายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกจะตอบคำถามต่างๆของเกษตรกรและสั่งให้สมาชิกรัฐบาลตอบคำถามที่เกี่ยวข้องถึงความรับผิดชอบของกระทรวงและหน่วยงานของตน สำหรับการจำหน่ายสินค้าการเกษตร นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้เผยว่า “สิ่งที่สำคัญคือ พวกเราต้องหาตลาดใหม่ที่ดีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ ผู้นำหลายท่านของเวียดนามที่เดินทางไปเยือนต่างประเทศก็แนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆของเวียดนามเพื่อส่งเสริมการจำหน่าย  ซึ่งผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนามสามารถเจาะตลาดใหม่ เช่น มะม่วง ลำใย เงาะ ปลาและไก่ ซึ่งรัฐ ประชาชนและผู้ผลิตต้องร่วมกันแสวงหาตลาดจำหน่ายและดูว่า ตลาดต้องการอะไรเพื่อมีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม”

ในบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้หารือกับผู้บริหารจังหวัดเกี่ยวกับสถานการณ์การปฏิบัติหน้าที่ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยย้ำว่า แม้ได้บรรลุผลงานที่น่ายินดีในด้านเศรษฐกิจและสังคมแต่จังหวัดหายเยืองยังไม่สามารถใช้ศัยกภาพและจุดแข็งของตนได้อย่างเต็มที่ จากจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐาน ในเวลาข้างหน้า จังหวัดหายเยืองต้องพยายามพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของภาคเหนือและของประเทศ พัฒนาอย่างคล่องตัวและสมบูรณ์เพื่อเป็น1ในจังหวัดนำหน้าของเวียดนาม กุญแจความสำเร็จของจังหวัดหายเยืองคือทรัยพยากรมนุษย์และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์และการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับศูนย์เศรษฐกิจอื่นๆทั่วประเทศ ในเวลาข้างหน้า ทางจังหวัดต้องปฏิรูปโครงสร้างของเขตนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งมหาวิทยาลัย 5 แห่งเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยเหล่านี้ ปฏิรูปการผลิตเกษตรและการลงทุนภาครัฐ ผลักดันการเข้าร่วมของทั้งสังคมและพยายามปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนให้มีความยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนสถานประกอบการขึ้นเป็น 2 เท่า.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด