นายกรัฐมนตรียืนยันถึงความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลตะวันออก

(VOVWorld) –  นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลตะวันออกเป็นความประสงค์ เป้าหมายและผลประโยชน์ร่วม

นายกรัฐมนตรียืนยันถึงความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลตะวันออก - ảnh 1
นำโดยท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีฌเวียดนามกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมแชงกรีล่า ๑๒ 

(VOVWorld) – เช้าวันที่๑มิถุนายน คณะผู้แทนเวียดนาม นำโดยท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีได้เดินทางออกจากสิงคโปร์กลับประเทศ เสร็จสิ้นการเข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการสนทนาแชงกรีล่า ครั้งที่๑๒ ตามคำเชิญของท่านลีเซียนลุงนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และคณะกรรมการจัดการสนทนาครั้งนี้ ในระหว่างพำนักในสิงคโปร์ในระหว่างวันที่๓๑พฤษภาคมถึงวันที่๑มิถุนายน ท่านNguyễn Tấn Dũngได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีโทนี ตันเค็งยัมและพบปะกับนายกรัฐมนตีลีเซียนลุง ในการนี้ ท่านNguyễn Tấn Dũng และประธานาธิบดีสิงคโปร์ได้ยืนยันว่า จะขยายความร่วมมือในกรอบของฟอรั่มภูมิภาคและโลกเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนแต่ละประเทศ เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและในโลก ท่านNguyễn Tấn Dũng และนายกรัฐมนตีลีเซียนลุงได้ยืนยันถึงความตั้งใจที่จะผลักดันความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ  ความมั่นคง วัฒนธรรม การศึกษา การก่อสร้าง และการท่องเที่ยวและชื่นชมกระทรวง หน่วยงานของทั้งสองฝ่ายที่ได้เสร็จสิ้นการร่างเนื้อหาแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศเพื่อลงนามในการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในปีนี้และเห็นพ้องกันว่า จะประสานกันในกระบวนการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือTPP นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านเห็นว่า อาเซียนควรดำรงความสามัคคีภายในกลุ่ม มีความตั้งใจทางการเมืองอย่างสูง ส่งเสริมบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนในปี๒๐๑๕  เกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ต่างเห็นด้วยต่อความสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ  ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือในทะเลตะวันออก ทุกฝ่ายควรมีความอดกลั้นและแก้ไขการพิพาทอย่างสันติ ให้ความเคารพกฏหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏมายทางทะเลปี๑๙๘๒ ปฏิบัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี หลักการ๖ข้อของอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกและการจัดทำร่างระเบียบปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว  ก่อนหน้านั้น เมื่อค่ำวันที่๓๑พฤษภาคมท่านNguyễn Tấn Dũng  ได้ตอบคำถามของผู้แทนที่เข้าร่วมการสนทนาครั้งนี้ที่เกี่ยวข้องถึงความท้าทายใหม่ โดยเฉพาะ ปัญหาทะเลตะวันออก ต่อคำถามของนายChristian Le Miere วิทยากรระดับสูงด้านกองทัพเรือและความมั่นคงในการเดินเรือ แห่งสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และนานาชาติหรือIISSของอังกฤษเกี่ยวกับความสำคัญของการปฏิบัติกฏหมายสากลในทะเลตะวันออกและเวียดนามเห็นด้วยกับการที่ฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องจีนต่อศาลโลกเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลหรือไม่ ท่านNguyễn Tấn Dũng  ได้กล่าวว่า“เกี่ยวกับปัญหานี้  เมื่อวันที่๒๖เมษายนปี๒๐๑๓ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันถึงทัศนะของเวียดนาม ผมไม่ขอทบทวนอีกเพื่อประหยัดเวลาของผู้แทนทุกท่าน  ผมขอเรียกร้องอีกครั้งให้อาเซียนและจีนร่วมกันปฏิบัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและพยายามจัดทำร่างระเบียบปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว  พวกเราร่วมกันสร้างสรรค์ความไว้วางใจยุทธศาสตร์ เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรือง”            นายลีจุงมินจากมหาวิทยาลัยYonsei  สาธารณรัฐเกาหลีได้มีคำถามเกี่ยวกับความไว้วางใจยุทธศาสตร์ ในบทปราศรัยเปิดการสนทนาครั้งนี้ของท่านNguyễn Tấn Dũngว่า  “ขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวถึงปัญหาความไว้วางใจยุทธศาสตร์  อยากให้ท่านชี้แจงถึงการประเมินของเวียดนามเกี่ยวกับความไว้วางใจต่อสหรัฐและจีน?” ต่อคำถามนี้ ท่านNguyễn Tấn Dũng ได้มีคำตอบว่า“ดังที่ผมได้กล่าวในบทปราศรัยของผมคือสหรัฐและจีนซึ่งเป็นสองประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทและความรับผิดชอบมากที่สุดต่อความสัมพันธ์ของตนเองในอนาคตและต่อสันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา ความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลก พวกเรามีความเชื่อมั่นและความหวังว่า ในฐานะสองประเทศมหาอำนาจของโลก สหรัฐและจีนจะตระหนักได้ดีถึงบทบาท ความรับผิดชอบและผลประโยชน์ของตน มียุทธศาสตร์ และงานที่จริงจังและสอดคล้องเพื่อมีส่วนร่วมให้แก่สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค”   นอกรอบการสนทนาแชงกรีล่า ครั้งที่๑๒  ท่านNguyễn Tấn Dũng ได้เป็นสักขีพยานในพิธีมอบใบอนุญาติเพิ่มเติมโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนDung Quất ให้แก่เครือบริษัท Sembcorp และพบปะกับตัวแทนเครือบริษัทใหญ่ๆของสิงคโปร์ /.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด