นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม

การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอิรวดี –เจ้าพระยา-แม่โขงและความร่วมมือCLMV ช่วยยกระดับสถานะและบทบทของเวียดนาม มีส่วนร่วมเปิดศักราชใหม่ให้แก่ความร่วมมือในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

  ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม บุ่ยแทงเซินได้ชื่นชมความหมายและผลการประชุมดังกล่าว โดยเผยว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการปฏิบัติผลการประชุมACMECS7และCLMV8ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยเมื่อเดือนตุลาคมปี2016และคำมั่นของบรรดาผู้นำเกี่ยวกับการปรับปรุงกลไกความร่วมมือACMECSและCLMVเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและการประสานงานในกรอบความร่วมมือกับอนุภูมิภาคอื่นๆ พร้อมทั้ง เผยว่า บทปราศรัยและข้อเสนอต่างๆเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือของนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้รับการชื่นชมจากประเทศต่างๆเนื่องจากสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและสร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ฝ่ายต่างๆ  นอกรอบการประชุม  ตัวแทนของสถานประกอบการชั้นนำและสถานประกอบการ Startup ของเวียดนามได้เข้าร่วมฟอรั่มผู้บริหารสถานประกอบการACMECSและการพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ

ก่อนหน้านั้น ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมACMECS8และCLMV9 นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้มีการพบปะกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุนเซน ประธานาธิบดีเมียนมาร์ อู วิน มินต์และเลขาธิการอาเซียน Lim Jok Hoi

ในการพบปะกับประธานาธิบดีเมียนมาร์ ผู้นำทั้งสองประเทศได้ยืนยันว่า การสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือในทุกด้านจะเปิดระยะใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้ง เห็นพ้องที่จะปฏิบัติข้อตกลงที่ได้บรรลุในการเยือนเมียนมาร์ของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเมื่อเดือนสิงหาคมปี2017และการเยือนเวียดนามของที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาร์เมื่อเดือนเมษายนปี2018 ผลักดันการประสานงานในกรอบของอาเซียน กลไกความร่วมมือในอนุภูมิภาค  มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก

ส่วนในการพบปะกับเลขาธิการอาเซียน นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ชื่นชมบทบาทของคณะเลขาธิการอาเซียนในความช่วยเหลือประเทศCLMVเพื่อลดช่องว่าการพัฒนาในอาเซียน พร้อมทั้ง ย้ำถึงความสำคัญของการฝึกอบรมให้แก่CLMV ส่วนเลขาธิการอาเซียนได้เผยว่า จะสวนวงเงิน10ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่โครงการฝึกอบรมของCLMV พร้อมทั้ง แสดงความประสงค์ว่า บรรดาผู้นำอาเซียนจะระดมทุกแหล่งเพื่อพัฒนาอาเซียน.