นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก (VGP)

ในการประชุมที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน นายรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้เข้าร่วมกิจกรรมทวิภาคีและพหุภาคีเกือบ 30 กิจกรรม ซึ่งได้สร้างนิมิตหมายที่เข้มแข็งเกี่ยวกับการเข้าร่วมที่กระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบของเวียดนาม เพื่อมีส่วนร่วมสร้างสรรค์อาเซียนที่ “สันติภาพ เสถียรภาพและพึ่งพาตนเอง” “ภูมิภาคที่เปิดกว้างกับประชาคมโลก”

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้ย้ำถึงความหมายของปีฉลอง 50 ปีวันก่อตั้งอาเซียน โดยย้ำว่า ในระยะปัจจุบัน อาเซียนต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อเนื้อหา 3 ประเด็น ประกอบด้วย อาเซียนต้องเน้นถึงผลประโยชน์ของประชาชน พยายามสร้างเอกลักษณ์ใหม่ของตนผ่านการผลักดันปัญหาร่วม โดยเฉพาะความมุ่งมั่นสร้างสรรค์อาเซียนที่พึ่งพาตนเอง ให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของประชาชนในประชาคมและพยายามสร้างผลงานของอาเซียน ในการหารือต่างๆ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้แลกเปลี่ยนทัศนะของเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก การเคลื่อนไหวเมื่อเร็วๆนี้ได้รับความสนใจจากหลายประเทศและหุ้นส่วนในการประชุมต่างๆต่อไป นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เอกสารต่างๆของการประชุมสุดยอดครั้งนี้ต้องสะท้อนให้เห็นถึงหลักการและทัศนะที่ถูกระบุในแถลงการณ์ร่วมการประชุมเอเอ็มเอ็ม 50 ประกอบด้วยการรักษาความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลหรือ UNCLOS ปี 1982 ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูตและนิตินัยอย่างสมบูรณ์ ปฏิบัติดีโอซีอย่างเคร่งครัด นายกรัฐมนตรีเวียดนามพร้อมบรรดาผู้นำได้ชื่นชมอาเซียนและจีนที่ได้อนุมัติกรอบซีโอซี และเสนอให้ทำการเจรจาซีโอซีอย่างจริงจังที่มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติและมีความผูกมัดทางนิตินัยโดยเร็ว ท่าน เหงียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า เวียดนามมีความประสงค์ว่า หุ้นส่วนต่างๆจะมีส่วนร่วมต่อการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ การรักษาความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออกบนเจตนารมณ์แห่งการให้ความเคารพกฎหมายและ UNCLOS 1982

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้เข้าร่วมการพบปะกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลาวและเวียดนาม เจรจากับนายกรัฐมนตรีจีน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย นายกรัฐมนตรีอินเดีย ให้การต้อนรับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติและประธานสภายุโรป โดยเวียดนามและทุกฝ่ายได้หารือถึงมาตรการและแนวทางต่างๆเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี ตลอดจนแก้ไขปัญหาความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม

หลังการประชุมต่างๆ บรรดาผู้นำอาเซียนได้ลงนามเอกสาร “ความเห็นพ้องอาเซียนเกี่ยวกับการปกป้องและผลักดันสิทธิของแรงงานอพยพ” ภายหลัง 10 ปีของการหารือเจรจา อาเซียนได้บรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และให้คำมั่นที่จะค้ำประกันให้แรงงานอพยพได้รับสิทธิและผลประโยชน์ขั้นพื้นฐาน การคุ้มครองทางสังคม ความยุติธรรมและการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม.