นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงเข้าร่วมพิธีลงนามเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับพันธมิตรเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป

(VOVworld) – นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงและนายกรัฐมนตรีประเทศรัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีสถานและอาร์เมเนียได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับพันธมิตรเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป

นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงเข้าร่วมพิธีลงนามเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับพันธมิตรเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป - ảnh 1
ท่านเหงียนเติ๊นหยุงนำคณะเข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป

(VOVworld) –  เช้าตรู่วันที่ 29 พฤษภาคม ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้นำคณะผู้แทนระดับสูงรัฐบาลเวียดนามเดินทางออกจากกรุงฮานอยไปยังเมืองบูราไบ ทางทิศเหนือของประเทศสาธารณรัฐคาซัคสถานเพื่อเข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป
ในบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงและนายกรัฐมนตรีประเทศรัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีสถานและอาร์เมเนียได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับพันธมิตรเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศแรกที่ได้ลงนามในข้อตกลงเอฟทีเอกับพันธมิตรฯที่มีจีดีพีรวมกันมากถึง 4 ล้าน 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐและมีประชากรรวมกัน 170 ล้านคน
ตามกำหนดการ ในระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน ภายหลังการเยือนคาซัคสถาน นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงจะเดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรีย สาธารณโปรตุเกสและสาธารณรัฐบัลแกเรียตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี 3 ประเทศดังกล่าว
การลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับพันธมิตรเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรปจะเป็นการร่างกรอบนิตินัยที่มีความเปิดเผยและสร้างเสถียรภาพให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างเวียดนามกับบรรดาประเทศสมาชิกของพันธมิตรฯ เพื่อขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีและหารือมาตรการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติข้อตกลงกับแต่ละประเทศ
ส่วนการเยือนประเทศแอลจีเรีย โปรตุเกสและบัลแกเรียอย่างเป็นทางการก็เพื่อเป็นการยืนยันถึงนโยบายความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับยุโรปและอียูและการให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับทวีปแอฟริกา พร้อมทั้งเป็นโอกาสเพื่อหารือกับประเทศเหล่านี้เกี่ยวกับสถานการณ์พัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมและประสบการณ์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ การเชื่อมสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ผลักดันกรอบความร่วมมือใหม่ๆ ดึงดูดผู้ประกอบการประเทศที่พัฒนาให้ประกอบธุรกิจและลงทุนกับเวียดนาม หารือมาตรการผลักดันความร่วมมือทวิภาคีให้มีประสิทธิภาพในทุกด้าน./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด