ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติพิจารณาอนุมัติข้อตกลงทีพีซีพีพี

CPTPP ไม่เพียงแต่ระบุถึงการปรับลดภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากประเทศสมาชิก เปิดตลาดด้านการบริการลิขสิทธิ์ทางปัญญา กำแพงกีดกันด้านการค้าเท่านั้น หากยังระบุถึงปัญหาใหม่ เช่น แรงงาน สิ่งแวดล้อม ค่าใช้จ่ายภาครัฐและสถานประกอบการภาครัฐอีกด้วย นอกจากนี้ ข้อตกลงนี้ยังกำหนดเงื่อนไข มาตรฐานและกลไกการแก้ไขปัญหาการพิพาทที่มีความผูกมัดทางนิตินัย ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้ชี้ชัดว่า“การเข้าร่วมและให้สัตยาบันข้อตกลงซีพีทีพีพีแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติคำมั่นในการเปลี่ยนแปลงใหม่และการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในเชิงลึกอย่างรอบด้านของเวียดนาม อีกทั้งยืนยันถึงบทบาทและสถานะทางการเมืองและภูมิศาสตร์ที่สำคัญของเวียดนามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิกและช่วยยกระดับสถานะของเวียดนามทั้งในกลุ่มอาเซียน ภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน การเข้าร่วมข้อตกลงซีพีทีพีพีจะช่วยให้เวียดนามเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือปัญหาต่างๆ ยกระดับสถานะของประเทศในการปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง พัฒนาความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่ายควบคู่กับการเสริมสร้างศักยภาพด้านกลาโหมและความมั่นคง หลังจากที่ข้อตกลงซีพีทีพีพีมีผลบังคับใช้จะช่วยกระชับการประสานผลประโยชน์และความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศสมาชิกข้อตกลงซีพีทีพีพี โดยเฉพาะประเทศที่มีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์จะมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น”

ส่วนในช่วงบ่าย  ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วยการแก้ไขและเพิ่มเติมต่อกฎหมาย 37 ฉบับที่มีข้อกำหนดเกี่ยวข้องกับการวางผังเพื่อที่จะมีผลบังคับใช้พร้อมกับกฎหมายการวางผังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2019 โดยผู้แทนสภาแห่งชาติส่วนใหญ่เห็นพ้องกับความจำเป็นที่ต้องประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ นาย ฝุ่งวันหุ่ง ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดกาวบั่งได้แสดงความเห็นว่า “การประกาศใช้กฎหมายการวางผังถือเป็นการปฏิวัติในกิจกรรมการวางผัง โดยได้ยกเลิกการวางผังสินค้า ผลิตภัณฑ์และการบริการที่ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาด ลดปริมาณการวางผังจากเกือบ 1 หมื่น 9 พันรายการลงเหลือเพียง 200-300 รายการ แก้ไขการวางผังที่ซ้ำซ้อน กระจัดกระจายและฟุ่มเฟือยในการจัดสรรแหล่งพลังของประเทศ”

บรรดาผู้แทนยังเผยว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนมีความประสงค์ว่า จะมีระบบการวางผังที่พร้อมเพรียงและสมบูรณ์ โดยเฉพาะกฎหมายการวางผังที่เกี่ยวข้องถึงการแก้ไขและเพิ่มเติมกฎหมายการวางผังตัวเมืองและกฎหมายการก่อกสร้างซึ่งเมื่อประกาศใช้จะสามารถแก้ไขสถานการณ์การวางผังที่ซ้ำซ้อนได้.