ผลักดันการผสมผสานเข้ากับภูมิภาคผ่าน ACMECS 7- CLMV8 และWEF-แม่โขง

(VOVworld) - กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่างประเทศก่อนการประชุมระดับสูงประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม หรือ CLMV ครั้งที่ 8 การประชุมระดับสูงยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขงหรือACMECS ครั้งที่ 7 และฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับแม่น้ำโขง

ผลักดันการผสมผสานเข้ากับภูมิภาคผ่าน ACMECS 7- CLMV8 และWEF-แม่โขง - ảnh 1
ภาพการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (Photo: baoquocte.vn)

(VOVworld) - เมื่อเช้าวันที่ 19 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่างประเทศก่อนการประชุมระดับสูงประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม หรือ CLMV ครั้งที่ 8 การประชุมระดับสูงยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขงหรือACMECS ครั้งที่ 7 และฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับแม่น้ำโขงในหัวข้อ “มุ่งสู่การพัฒนาอนุภูมิภาคแม่นํ้าโขงที่คล่องตัวและเจริญรุ่งเรือง” ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 24 – 26 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย ซึ่งเป็นโอกาสให้ประเทศต่างๆในอนุภูมิภาคแม่นํ้าโขงผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยที่ประชุมจะเน้นหารือถึงการส่งเสริมการเชื่อมโยงเพื่อผลักดันการผสมผสานด้านเศรษฐกิจ กระชับความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค ส่วนที่ประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับแม่น้ำโขงในหัวข้อ “พัฒนาอนุภูมิภาคแม่นํ้าโขง – การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งบุคลากรและความเชื่อมโยง”จะหารือเกี่ยวกับปัญหาสำคัญต่างๆ เช่น การระดมเงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการยกเลิกกำแพงกีดกันทางการค้า นาย ดั่งดิ่งกวี๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันถึงบทบาทของเวียดนามต่อการประชุมต่างๆดังกล่าวว่า
“ในฐานะเป็นประเทศสมาชิกที่เข้มแข็งและมีความรับผิดชอบ เวียดนามได้มีส่วนร่วมสำคัญต่อความร่วมมือ CLMV และ ACMECS โดยได้เสนอความคิดริเริ่มต่างๆเพื่อกระชับความร่วมมือ CLMV และ ACMECS ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจัง รวมทั้งเสนอให้จัดฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับแม่น้ำโขงในกรอบของการประชุม CLMV และ ACMECS เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพของเขตอนุภูมิภาคแม่นํ้าโขงต่อผู้ประกอบการต่างชาติ ซึ่งช่วยเปิดโอกาสความร่วมมือระหว่างเครือบริษัทชั้นนำของโลกกับสถานประกอบการในภูมิภาค มีส่วนร่วมดึงดูดเงินลงทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งบุคลากรและผลักดันการเชื่อมโยงในเขตอนุภูมิภาคแม่นํ้าโขง”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด