นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกกล่าวปราศรัยในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-สวีเดน  (VGP)

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า ความสัมพันธ์ที่ยาวนานและดีงามได้สร้างพื้นฐานให้แก่การกระชับความร่วมมือทวิภาคีให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2018 อยู่ที่ กว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สวีเดนอยู่อันดับที่ 34 จากจำนวน 130 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม โดยมีโครงการลงทุน 34 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเครือบริษัทใหญ่ๆของสวีเดน เช่น เครือบริษัท ABB Ericsson Volvo และ Electrolux ได้ประสบความสำเร็จในการประกอบุรกิจในเวียดนาม นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนาม พร้อมทั้งเผยว่า การเจรจากับนาย Stefan Löfven นายกรัฐมนตรีสวีเดนได้ประสบความสำเร็จ ซึ่งช่วยเปิดหน้าใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี“เวียดนามถือสวีเดนเป็นหุ้นส่วนสำคัญเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศ ส่วนสวีเดนก็ถือเวียดนามเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งความร่วมมือกับสถานประกอบการสวีเดนจะช่วยให้สินค้าเวียดนามสามารถเจาะตลาดต่างๆในสหภาพยุโรป ส่วนสถานประกอบการสวีเดนที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามสามารถเข้าถึงตลาดต่างๆในภูมิภาคอาเซียนที่มีการพัฒนาอย่างคล่องตัว โดยสถานประกอบการเป็นกองกำลังแกนหลักและเป็นผู้เดินหน้าในการกระชับความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ จากความสัมพันธ์ที่ดีงาม ความเข้าใจ ความไว้วางใจระหว่าง 2 ประเทศได้สร้างพื้นฐานให้แก่แนวทางความร่วมมือใหม่ในยุคแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งสถานประกอบการสวีเดนและเวียดนามจะประสบความสำเร็จและพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวลาข้างหน้า”

ส่วนนาย Stefan Löfven นายกรัฐมนตรีสวีเดนได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของสวีเดน พร้อมทั้งกล่าวถึงโอกาสความร่วมมือด้านคมนาคม สาธารณสุขและเทคโนโลยีสารสนเทศ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกและนาย Stefan Löfven นายกรัฐมนตรีสวีเดนได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการทั้ง 2 ประเทศ

วันที่ 28 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรีเหงวียนซซนฟุกได้ไปเยือนเครือบริษัทEricsson และ Stockholm ExergiโดยเครือบริษัทEricsson ได้เข้ามาลงทุนในเวียดนามตั้งแต่ปี 1993 และกำลังพัฒนาเทคโนโลยี 5G ในทั่วโลก ในเวลาข้างหน้า ทางบริษัทฯมีแผนร่วมมือกับบริษัท Viettelในการสร้างสรรค์เครือข่าย5G และมีความประสงค์ที่จะสนับสนุนเวียดนามพัฒนาเครือข่ายที่สร้างสรรค์เพื่อปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาประเทศเวียดนามให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ผลิตซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก.