พบปะหารือกับผู้ว่าการรัฐไรน์ลันด์-ฟัลซ์ Malu Drayer (Photo VNplus)

นาง Malu Drayer ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศในเวลาที่ผ่นมา ส่วนนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กได้เสนอให้รัฐสภาเยอรมนีสนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มส.ส.มิตรภาพเยอรมนี – เวียดนามเพื่อขยายความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างรัฐสภาสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านการจัดทำร่างนิติบัญญัติและการตรวจสอบ พร้อมทั้งเรียกร้องการสนับสนุนเวียดนามในด้านที่รัฐไรน์ลันด์-ฟัลซ์มีศักยภาพ โดยเฉพาะการฝึกอบรมและรับนางพยาบาลของเวียดนามเข้าทำงานในโรงพยาบาลต่างๆของรัฐไรน์ลันด์-ฟัลซ์

พบปะหารือกับผู้ว่าการรัฐเฮ็สเซิน โฟลเคอร์บูฟิเยร์

ในบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเวียดนามพร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามได้เดินทางถึงรัฐ เฮ็สเซิน โดยในการพบปะหารือ ผู้ว่าการรัฐเฮ็สเซิน โฟลเคอร์บูฟิเยร์ ได้แสดงความปรารถนาที่จะขยายความร่วมมือกับเวียดนามในด้านที่รัฐมีศักยภาพ เช่น การศึกษา – ฝึกอบรม อุตสาหกรรมเคมีและจักรกล เป็นต้น ส่วนนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กได้เสนอให้ทางการรัฐเฮ็สเซินสนับสนุนและส่งเสริมสถานประกอบการเยอรมนีไปลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนาม พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการเยอรมนีลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีเสถียนรภาพในเวียดนาม เสนอให้ท้องถิ่นทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านที่ต่างให้ความสนใจ

สำหรับการศึกษาและฝึกอบรม นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ชื่นชมการช่วยเหลือของรัฐเฮ็สเซินผ่านโครงการมหาวัทยาลัยเวียดนาม – เยอรมนีและเสนอให้สนับสนุนโครงการนี้ต่อไป โดยเฉพาะการฝึกอบรมครูอาจารย์เวียดนาม

ส่วนในการพบปะกับประธานรัฐสภาของรัฐเฮ็สเซิน Norbert Kartmann นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เสนอให้ผู้นำและส.ส.ของรัฐเฮ็สเซินขยายความร่วมมือกับรัฐสภาและสภาประชาชนของนครต่างๆในเวียดนาม โอกาสนี้ นาย Norbert Kartmann ได้ยืนยันว่า รัฐเฮ็สเซินจะมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

มอบธงแข่งขันของรัฐบาลให้แก่เจ้าหน้าที่สถานทูตเวียดนามประจำเยอรมนี (Photo VGP)

ในค่ำวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เดินทางถึงกรุงเบอร์ลินและเยือนสถานทูตเวียดนามประจำเยอรมนีโดยได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่สถานทูตฯและตัวแทนชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศเยอรมนี และย้ำว่า ชาวเวียดนามในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประชาชาติเวียดนามได้ พรรคและรัฐเวียดนามให้การดูแลเอาใจใส่และปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศ พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศเยอรมนีจะส่งเสริมความสามัคคีและช่วยเหลือจุนเจือกัน ธำรงเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประชาชาติและภาษาเวียดนามให้แก่คนรุ่นหลังและเป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพระหว่างสองประชาชาติ.