พิธีรำลึกครบรอบ 110 ปีวันก่อตั้งจังหวัดเดียนเบียน

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี รองประธานสภาแห่งชาติ ต่องถิฟ้อง ได้ย้ำว่า พิธีได้มีขึ้นประจวบกับโอกาสรำลึกครบรอบ 65 ปีชัยชนะเดียนเบียนฟูทำให้มีความหมายทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง สำหรับหน้าที่ของจังหวัดเดียนเบียนในการพัฒนาประเทศในเวลาที่จะถึง รองประธานสภาแห่งชาติ ต่องถิฟ้อง ได้กำชับว่า “ทางจังหวัดฯต้องพยายามเป็นจังหวัดพัฒนาในระดับปานกลางในเขตเขาภาคเหนือภายในปี 2020 พัฒนาการเกษตรและป่าไม้ตามแนวทางผลิตสินค้า ยกระดับความสามารถในการเชื่อมโยงกับจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวการบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ปฏิบัติงานด้านการแก้ปัญหาความยากจนและโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ ธำรงสัมพันธไมตรีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านกับจังหวัดต่างๆในภาคเหนือของลาว ขยายความสัมพันธ์ร่วมมือกับมณฑลหยุนหนาน ประเทศจีน จังหวัดต่างๆในภาคอีสานของประเทศไทยและองค์การระหว่างประเทศตามแนวทางนโยบายการต่างประเทศของพรรค สร้างสรรค์เขตชายแดนที่สันติภาพ มิตรภาพ ร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนา”

ต่อจากนั้น ได้มีการเดินพาเหรดและการเดินสวนสนามโดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและประชาชนกว่า 2 พัน 3 ร้อยคนเข้าร่วม รวมทั้งรายการศิลปะภายใต้หัวข้อ “เดียนเบียนฟู-บทเพลงแห่งอมตะ” คุณ เหงียนถิหว่า ประชาชนที่เข้าร่วมงานเผยว่า “ตัวอย่างเกี่ยวกับการต่อสู้ที่กล้าหาญของกองทัพและประชาชนเวียดนามในยุทธนาการเดียนเบียนฟูยังคงอยู่ในใจของดิฉัน วันนี้ พวกเรามาที่นี่และรู้สึกตื้นตันใจมาก”

ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ผู้นำของพรรคและรัฐได้เดินทางไปวางพวงมาลาเพื่อแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อวีชน ทหารพลีชีพเพื่อชาติที่สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติ เอ1

การแข่งขันปั่นจักรยานในกรุงฮานอย

โอกาสนี้  ที่จังหวัดเดียนเบียนยังมีการจัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่นการประชาสัมพันธ์ แนะนำหนังสือ การแข่งขันปั่นจักรยานภายใต้หัวข้อ “กลับเดียนเบียนฟูปี 2019” และวันงานวัฒนธรรมชนเผ่าไท

ส่วนที่กรุงฮานอย ได้มีการสัมมนาระหว่างประเทศภายใต้หัวข้อ “ 65 ปีการต่อสู้เดียนเบียนฟู – สถานการ์ภายในประเทศและต่างประเทศ” พิธีเปิดตัวหนังสือ “เดียนเบียนฟู 13 มีนาคม-7 พฤษภาคมปี 1954” และการพบปะกับนักเขียน Ivan Cadeau ชาวฝรั่งเศสโดยแนะนำเอกสารอันล้ำค่าเกี่ยวกับชัยชนะเดียนเบียนฟูผ่านมุมมองบของชาวฝรั่งเศส งานนิทรรศการภาพถ่าย “เดียนเบียนในช่วงนั้น” ที่ยกย่องสดุดีความรักชาติ ความสามัคคี จิตใจแห่งการต่อสู้ที่กล้าหาญและความมุ่งมั่นเพื่อพิทักษ์รักษาปิตุภูมิของกองทัพและประชาชนเวียดนาม.