ยกระดับและยืนยันสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก

31 ธันวาคม 2559 | 9:00:00

จากแนวทางและนโยบายผสมผสานที่ถูกต้องในตลอด 30 ปีที่ผ่านมา สถานะของเวียดนามบนเวทีโลกได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น โดยจากการถูกโดดเดี่ยว ปัจจุบัน เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 187 ประเทศจากจำนวนทั้งหมด 193 ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับ 15 ประเทศและความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับ 10 ประเทศ รวมทั้งกับประเทศมหาอำนาจทั้งหมดและ 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีส่วนร่วมกำหนดสถานะของเวียดนามที่มั่นคงมากขึ้นทั้งในระดับภูมิภาคและโลก เมื่อพูดถึงประเด็นนี้ ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามในโอกาสการประชุมการทูตครั้งที่ 29 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ได้ย้ำว่า“ในตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้สร้างกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนในทุกด้านกับประเทศต่างๆ ซึ่งเพียงในรอบ 5 ปีมานี้ จำนวนหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ได้เพิ่มขึ้นอีก 8 หุ้นส่วนซึ่งหมายความว่า เราได้มีพื้นฐานเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆแล้ว”
เหตุการณ์ที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 1995 ถือเป็นก้าวกระโดดในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม จนถึงปี 1996 เวียดนามได้เข้าร่วมการก่อตั้งและเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นของฟอรั่มความร่วมมือเอเชีย-ยุโรปหรืออาเซม ต่อจากนั้น เวียดนามได้เข้าเป็นสมาชิกของฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปกเมื่อปี 1998 ส่วนการที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกเมื่อเดือนมกราคมปี 2007 ได้สร้างนิมิตหมายการผสมผสานในทุกด้านของเวียดนามเข้ากับองค์การระหว่างประเทศต่างๆ และเมื่อปี 2015 เวียดนามและประเทศสมาชิกอาเซียนได้ผสมผสามเข้ากับประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ ในการประชุมการทูตครั้งที่ 29 นาง Pratibha Mehta อดีตผู้ประสานงานของสหประชาชาติประจำเวียดนามได้ประเมินว่า“กระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนามมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เวียดนามเข้าร่วมกลไกร่วมมือทั้งในระดับภูมิภาคและโลกเกือบทั้งหมด เช่นอาเซียน เอเปก อาเซม และเข้าร่วมการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้าสำคัญๆของภูมิภาคและโลก เวียดนามยังเข้าร่วมและผสมผสานเข้ากับกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติอย่างเข้มแข็งและกว้างลึก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่นับวันเป็นฝ่ายรุกของเวียดนามในการมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมของโลก”

ยกระดับและยืนยันสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก - ảnh 2

การประชุมไอพียูครั้งทีี่ 132 ณ กรุงฮานอย

เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มการจัดตั้งเขตการค้าเสรีในโลก จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้เป็นภาคีข้อตกลงการค้าเสรี 12 ฉบับกับ 56 ประเทศและเศรษฐกิจใหญ่ๆในโลก ซึ่งในนั้นมีข้อตกลงเอฟทีเอ 6 ฉบับนอกกรอบกลุ่มอาเซียนหรือกับประเทศหุ้นส่วนของอาเซียน นาง Charlotte Laursen เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำเวียดนามได้ชื่นชมการเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนามว่า“หนึ่งในจุดเด่นของกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนามคือการที่เวียดนามและอียูเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอ นอกจากนั้น เวียดนามได้เข้าร่วมแถลงการณ์ร่วมในการประชุม COP-21 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการเป็นเจ้าภาพการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียู ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด ณ เวียดนาม โดยจากการเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้น เวียดนามได้ยกระดับสถานะด้วยการมีบทบาทสำคัญเป็นแกนหลักในฟอรั่มระหว่างประเทศต่างๆมากขึ้น”

ด้วยคำพูดและปฏิบัติการ เวียดนามกำลังพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า เวียดนามเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจของทุกประเทศและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในประชาคมโลก.