สหรัฐถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่เต็มไปด้วยความคาดหวังในเอเชียแปซิฟิก

(VOVworld) - สหรัฐถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่เต็มไปด้วยความคาดหวังในเอเชียแปซิฟิกคือคำยืนยันของบรรดาผู้เชี่ยวชาญวิจัยเกี่ยวกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรายงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐที่ศูนย์ด้านการวิจัยยุทธศาสตร์และนานาชาติของสหรัฐหรือซีเอสไอเอสประกาศในเช้าวันที่ 2 ตุลาคม
รายงาน “ยุคใหม่ในความสัมพันธ์สหรัฐ-เวียดนาม: เพิ่มความลึกซึ้งของความสัมพันธ์ภายหลัง 2 ทศวรรษปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ” ได้เน้นถึง 3 เสาหลักในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ ประกอบด้วย ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน ความสัมพันธ์ระดับประชาชนที่รวมถึงความร่วมมือด้านการศึกษา สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
รายงานได้ระบุว่า นับตั้งแต่ปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติเมื่อปี 1995 ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐได้มีความคืบหน้าอย่างก้าวกระโดดในทุกด้าน รวมทั้งการเมือง เศรษฐกิจ กลาโหมและวัฒนธรรม ปัจจุบัน ผู้วางนโยบายของสหรัฐได้ถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่เต็มไปด้วยความคาดหวังในเอเชียแปซิฟิกและสองประเทศกำลังแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ การเมือง ความมั่นคงและเศรษฐกิจให้มากขึ้น
นาย สก๊อต มาไซล์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐดูแลปัญหาเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกได้ให้ความสำคัญต่อบทบาทของเวียดนามบนเวทีพหุภาคีว่า“ในด้านการทูต พวกเราได้ประสานอย่างมีประสิทธิภาพกับเวียดนามในอาเซียน การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกและเอเปก เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่ดีในการผลักดันสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาค”
ตามรายงานของซีเอสไอเอส สหรัฐและเวียดนามต่างมีผลประโยชน์ในการธำรงการเดินเรือและการค้าอย่างเสรีในทะเลตะวันออก ยับยั้งการใช้ความรุนแรงในการพิพาทดินแดนและค้ำประกันการแก้ไขการปะทะทางทะเลอย่างสันติ นักวิจัยสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า ในสภาวการณ์ที่สหรัฐกำลังปฏิบัตินโยบายเปลี่ยนความสนมาสู่เอเชียแปซิฟิก  การธำรงความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์กับเวียดนามจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดตั้งผลประโยชน์ของสหรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานของซีเอสไอเอสได้ระบุว่า ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกำลังเป็นพื้นฐานและเป็นพลังขับเคลื่อนของความสัมพันธ์หุ้นส่วนเวียดนาม-สหรัฐ ภายหลัง 12 ปีที่ทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลงการค้าทวิภาคี มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้บรรลุ 2 หมื่น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2013
นอกจากการประเมินความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา รายงานดังกล่าวได้มีข้อเสนอเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยทั้งสองฝ่ายต้องผลักดันความพยายามเพื่อเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงทีพีพีโดยเร็ว ผลักดันการสนทนาระดับรัฐบาลเกี่ยวกับการค้าและการลงทุน การสนทนาระหว่างสถานประกอบการทั้งสองประเทศ ผ่อนปรนกฎระเบียบการจำกัดและคุ้มครองการค้า นอกจากนั้น สหรัฐต้องมุ่งสู่การรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามตามเนื้อหาของความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศ บรรดาผู้เชี่ยวชาญซีเอสไอเอสได้เสนอให้รัฐบาลสหรัฐปฏิบัติแผนการชะล้างสารพิษไดอ๊อกซินที่สนามบินดานังและเบียนหว่าอย่างสมบูรณ์ ตลอดจนให้การช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินในเวียดนาม./.