สำนักข่าวเอเอฟพี รอยเตอร์ ได้ลงข่าวชัยชนะนี้ โดยนักข่าวรอยเตอร์ Michael Church ได้ชื่นชมว่า “ในที่สุดทัพนักเตะเสื้อแดงก็เป็นแชมป์นับตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อปี2008 โดยการทำประตูอย่างยอดเยี่ยมของแองห์ดึ๊กได้ช่วยพาทัพนักกีฬาของโคช ปาร์ค ฮัง ซอ ชนะมาเลเซียเพื่อครองถ้วยแชมป์อย่างสมใจแฟนบอลทั้งชาติ” สำนักข่าวเอพีของสหรัฐได้วิเคราะห์ว่า ชัยชนะนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของฟุตบอลเวียดนามภายใต้การนำของโคชชาวเกาหลี ปาร์ค ฮัง ซอ

ในขณะเดียวกันสื่อสายกีฬาของไทยก็ได้ติดตามลงข่าวการแข่งขันและชื่นชมชัยชนะของทีมชาติเวียดนาม โดย siamsport ได้ลงข่าวและภาพที่พาดหัวว่า “รอบ10ปี! เวียดนามไม่พลาดอัดมาเลเซีย1-0 เถลิงแชมป์ซูซูกิ คัพ สมัย2” หนังสือพิมข่าวสดลงข่าว “10ปีที่รอคอย! เวียดนาม เฉือน มาเลเซีย ผงาดแชมป์ซูซูกิคัพ สมัย 2” ส่วนไทยรัฐออนไลน์ลงข่าววิเคราะห์ชัยชนะของทีมชาติเวียดนามโดยพาดหัวข่าวว่า “ชำแหละ 3 เหตุผล “เวียดนาม” คู่ควรคว้าแชมป์ซูซูกิคัพ 2018” เป็นต้น

บนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ Fox Sports  หนังสือพิมพ์ New Straits Times ก็ได้ลงข่าวและภาพเกี่ยวกับชัยชนะของทีมชาติเวียดนามในเอเอฟเอฟคัพ2018 โดยพาดหัวข่าวว่า “มังกรทองสามารถเอาชนะมาเลเซียเพื่อเป็นแชมป์“เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018”พร้อมทั้งยังคัดเสนอคำปราศรัยของโคชทีมชาติมาเลเซียที่ยอมรับว่าการเสียประตูในนาทีแรกๆนั้นได้ทำหลายแผนการเล่นของมาเลเซียและทัพเสือแห่งมาเลเซียต้องยอมแพ้

ส่วนสื่อต่างๆของสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งเป็นบ้านเกิดของโคช ปาร์ค ฮัง ซอ อย่างหนังสือพิมพ์ Chosun, Sports Khan , Sports Seoul , Nocutnews เป็นต้น ต่างก็ติดตามลงข่าวชัยชนะของทีมฟุตบอลเวียดนามและการนำที่ดีเยี่ยมของโคช ปาร์ค ฮัง ซอ.