เปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ – เศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 29 หรือเอเอ็มเอ็ม 29

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามฝ่ามบิ่งมิงห์ได้ย้ำว่า นับตั้งแต่ที่การประชุมเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 28 ได้มีขึ้น ณ กรุงลิมา ประเทศเปรูเมื่อปี 2016 ได้มีการขยายความร่วมมือระหว่างเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆต่อการขยายตัวและการเชื่อมโยงในภูมิภาค เอเปกต้องขยายความร่วมมือและเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวของภูมิภาคและโลก เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ทศวรรษที่ 4 ของการพัฒนา ของเอเปก นำมาซึ่งผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ “ในการประชุมครั้งนี้ พวกเราเน้นถึง 3 ประเด็น 1คือทบทวนการดำเนินงานของเอเปกในตลอด 1 ปีที่ผ่านมา 2 คือ เสร็จสิ้นเนื้อหาที่จะยื่นต่อที่ประชุมผู้นำเอเปกในวันต่อๆไป สามคือตัดสินใจผลักดันกระบวนการความร่วมมือในด้านหลักๆภายในกลุ่มเอเปกเพื่อยื่นต่อผู้นำเอเปกในการประชุมสุดยอดครั้งนี้”

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามเจิ่นต๊วนแองได้เผยว่า สถานการณ์โลกและภูมิภาคกำลังปรากฎปัญหาที่ซับซ้อน โดยเฉพาะแนวโน้มการคุ้มครองการค้าที่กำลังขยายตัว แม้ใน 1 ปีที่ผ่านมา เอเปกได้ประสบผลที่น่ายินดีในความร่วมมือในทั้ง 3 เสาหลักแต่ความท้าทายก็นับวันซับซ้อนมากขึ้น ปี 2020 ถือเป็นกำหนดการที่เอเปกต้องเสร็จสิ้นเป้าหมายโบกอร์ที่ได้รับความเห็นพ้องในการประชุมสุดยอดเมื่อปี 1994 ของบรรดาเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้จะมีการประเมินกระบวนการปฏิบัติเพื่อผลักดันให้เป้าหมายนี้มีประสิทธิภาพที่สุด

หลังพิธีเปิด ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการขยายความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภูมิภาคและการขยายตัวอย่างมีคุณภาพ การอำนวยความสะดวกในการลงทุน การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจดิจิตอล เสริมสร้างระบบการค้าพหุภาคี สนับสนุนสถานประกอบการขยาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว.