เวียดนาม-ฟิลิปปินส์สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์

(VOVworld) – ประธานาธิบดี เบนิกโน อากิโน ได้ย้ำว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์คือก้าวเดินสำคัญเพื่อเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศ

เวียดนาม-ฟิลิปปินส์สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ - ảnh 1
ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศพบปะกับท่าน เบนิกโน อากิโน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ (vietnamplus)

(VOVworld) – ในกรอบการเข้าร่วมสัปดาห์ผู้นำเอเปกปี 2015 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ บ่ายวันที่ 17 พฤศจิกายน ณ ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้เจรจากับท่าน เบนิกโน อากิโน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในการเจรจา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะธำรงและขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง จัดกิจกรรมใหญ่ๆในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2016 เพื่อผลักดันการพบปะสังสรรค์และความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ธำรงกลไกความร่วมมือที่กำลังมีอยู่ ผลักดันการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในทุกด้านที่ทั้งสองฝ่ายมีจุดแข็ง ฟิลิปปินส์ยืนยันว่า เวียดนามยังคงเป็นผู้จัดสรรข้าวที่สำคัญของฟิลิปปินส์ต่อไป ชื่นชมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านการกู้ภัย นอกจากความร่วมมือทวิภาคีแล้ว ผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ ฟิลิปปินส์ให้คำมั่นว่าจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเวียดนามเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกและแสดงความประสงค์ที่จะทาบทามความคิดเห็นของเวียดนามในการเข้าร่วมข้อตกลงการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกหรือทีพีพี ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซางได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ฟิลิปปินส์จะจัดการประชุมเอเปก 23 ให้ประสบความสำเร็จและเผยว่า เวียดนามจะสนับสนุนฟิลิปปินส์ในกระบวนการทีพีพี ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความสามัคคีและธำรงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในปัญหาใหญ่ๆที่เกี่ยวข้องถึงความมั่นคงและผลประโยชน์ของแต่ละประเทศและของภูมิภาค
หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และได้พบปะกับสื่อมวลชน
ประธานาธิบดี เบนิกโน อากิโน ได้ย้ำว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์คือก้าวเดินสำคัญเพื่อเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศซึ่งสิ่งนี้ยิ่งมีความหมายเท่านั้นในสภาวะการณ์ที่ทั้งสองประเทศฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปีหน้าซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันและทำให้ความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านมีความลึกซึ้งมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด