การเลี้ยงไหม  (baomoi.com)

อำเภอ เถี่ยวฮว้า คืออำเภอในเขตที่ราบลุ่ม ที่ขนาบด้วยแม่น้ำจูและส่วนหนึ่งของแม่น้ำหมา ดังนั้นจึงมีพื้นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ ทางอำเภอมีพื้นที่กว้างใหญ่  รวมทั้งพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช รวมทั้งปลูกหม่อนเพื่อเป็นอาหารเลี้ยงไหมของครอบครัวปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในท้องถิ่น อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมีความได้เปรียบมากมาย และมีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสูง เช่นลงทุนต่ำ มีรายได้เร็ว โดยภายในเวลา 20-25 วันไหมสามารถให้รังไหม และการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสร้างรายได้ตลอดทั้งปี จนถึงปัจจุบัน ทางอำเภอมีเกือบ 1 พันครอบครัวที่ประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่มีประสบการณ์และมีความมุ่งมั่นประกอบอาชีพนี้จึงได้ผลผลิตสูงและมีประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจ นอกจากนั้น อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมยังสามารถสร้างงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถใช้เงินลงทุนและประสบการณ์ในการผลิต ตลอดจนวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไม่เพียงแต่จัดสรรเส้นไหมให้แก่หน่วยงานอุตสาหกรรมสิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูปเท่านั้น หากยังจัดสรรวัตถุดิบให้แก่หน่วยงานอุตสาหกรรมแปรรูปอื่นๆ เช่นเภสัชกรรม  แฟชั่น อาหาร อุตสาหกรรมการผลิตรองเท้าและการผลิตปุ๋ย เป็นต้น ดังนั้นนี่คืออาชีพที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจในระดับสูง มีส่วนร่วมแก้ปัญหาความยากจนในเขตชนบท การธำรงและพัฒนาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในเวลาที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากทางการปกครองอำเภอและประชาชน ดังนั้นพื้นที่ปลูกหม่อนในอำเภอจึงพัฒนาอย่างยั่งยืน นาย เลเท๊กี๊ เจ้าหน้าที่ของอำเภอ เถี่ยวฮว้า ได้เผยว่า “ปัจจุบัน พวกเราได้วางแผนหมู่บ้านศิลปาชีพในพื้นที่เกือบ 2หมื่น 9 พันตารางเมตร และขยายรูปแบบการผลิตผ้าไหมออกไปยังชุมชนรอบนอก ถ้าธำรงอาชีพนี้ได้ ทุกปีจะสร้างงานทำให้แก่แรงงานตั้งแต่ 300-400 คน และอาชีพนี้สร้างรายได้ร้อยละ 30 ให้แก่ท้องถิ่น”

ในหลายปีมานี้ อาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมคืออาชีพที่พัฒนาอย่างเข้มแข็ง

นาย เลดิ่งหยุง ในตำบล เถี่ยวโด อำเภอ เถี่ยวฮว้า คือหนึ่งในครอบครัวที่ประกอบอาชีพมานานได้เผยว่า ในหลายปีมานี้ นี่คืออาชีพที่พัฒนาอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะเมื่อเข้าร่วมสหกรณ์ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม  ทางสหกรณ์ฯได้แนะนำให้นาย หยุง เปลี่ยนพันธุ์หม่อนใหม่ ทำให้ได้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์หม่อนดั้งเดิม 3 เท่า “ในหลายปีมานี้ การปลูกหม่อนพันธุ์ใหม่ให้ผลผลิตสูงขึ้น 3 เท่า โดยแต่ละเดือน ในพื้นที่เกือบ 1 พันตารางเมตร ถ้าปลูกหม่อนพันธุ์ดั้งเดิมจะได้รังไหม 300 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันหม่อนพันธุ์ใหม่ได้รังไหมเกือบ 900 กิโลกรัม”

นาย หยุง เผยต่อไปว่า จากการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิต ทุกปีผลผลิตได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ปัจจุบัน ในอำเภอ เถี่ยวฮว้ามีเกือบ 2 พัน 5 ร้อยครอบครัวและโรงงานผลิต ประกอบอาชีพพื้นเมือง สร้างงานทำให้แก่แรงงานเกือบ 6 พัน 2 ร้อยคน มีรายได้เฉลี่ย 32 ล้านด่งต่อปีต่อคน มูลค่าการผลิตบรรลุ 2 แสน 1 หมื่น 1 พันล้านด่ง เพื่อพัฒนาอาชีพพื้นเมืองของท้องถิ่น อำเภอเถี่ยวฮว้าได้ให้ความสนใจชี้นำ อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการพัฒนาและสร้างเครื่องหมายการค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผลิตภัณฑ์รังไหม ห่งโด ของตำบล เถี่ยวโด ได้รับการรับรองเครื่องหมายการค้าจากกรมลิขสิทธิ์ทางปัญญา คณะกรรมการประชาชนอำเภอได้เชิญศาสตราจารย์ชั้นนำเกี่ยวกับอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสังกัดศูนย์วิจัยหม่อนไหมส่วนกลางมาให้คำแนะนำและสอนเทคนิกการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้แก่เกษตรกรในอำเภอเพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถในการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีใหม่ในการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม

จากการช่วยเหลือที่เข้มแข็งของทางการปกครองท้องถิ่น จนถึงปัจจุบัน อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในเถี่ยวฮว้าไม่เพียงแต่ได้รับการฟื้นฟูและพัฒนาเท่านั้น หากยังนำคุณค่าด้านเศรษฐกิจและรายได้มาให้แก่ประชาชนอีกด้วย.