เกษตรกรในอำเภอกาวฟอง จังหวัดหว่าบิ่งสร้างความร่ำรวยจากการปลูกส้ม

การปลูกส้มกาวฟองเริ่มเมื่อกว่าครึ่งศตวรรษก่อน ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบาย สภาพพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการปลูกส้มได้ทำให้ส้มของที่นี่มีชื่อเสียงเนื่องจากหอมอร่อย มีสีเหลืองสวยและมีน้ำเยอะ

มองลงมาจากด้านบน จะเห็นสวนส้มในอำเภอกาวฟองปกคลุมไปทั่วเนินเขา ในหลายปีมานี้ เกษตรกรในอำเภอกาวฟองได้ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อผลิต ดังนั้นผลผลิตส้มจึงนับวันเพิ่มมากขึ้นและมีคุณภาพดี นาย เหงียนวันเหียน หัวหน้าหน่วยการเกษตรและพัฒนาชนบทอำเภอกาวฟองได้เผยว่า การปลูกส้มได้กลายเป็นช่วงทางสร้างความร่ำรวยของเกษตรกรที่นี่ “ปัจจุบัน อำเภอกาวฟองมีพื้นที่ปลูกผลไม้กว่า 2,800 เฮกตาร์ ซึ่งส่วนใหญ่คือส้ม โดยมีพื้นที่กว่า 1,300 เฮกตาร์และกำลังอยู่ในฤดูเก็บเกี่ยว ผลผลิตในปีนี้บรรลุกว่า 33,000 ตันและรายได้บรรลุ 6 แสนล้านด่ง”

ตำบลบั๊กฟองคือหนึ่งในตำบลที่มีพื้นที่ปลูกส้มมากที่สุดของอำเภอกาวฟอง รวมพื้นที่เกือบ 800 เฮกตาร์ โฉมหน้าและชีวิตของประชาชนได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่พัฒนาการปลูกส้ม โดยบ้านที่โอ่โถงและทันสมัยหลายหลัง ถนนคอนกรีตที่เชื่อมทางหลวงไปยังสวนส้มหลายสายได้รับการก่อสร้าง และหลายครอบครัวได้ซื้อรถยนต์ นาย บุ่ยวันท้าย รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลกาวฟองได้เผยว่า “การปลูกส้มได้นำผลประโยชน์มากมายมาให้แก่ประชาชนในตำบล ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น อัตราครอบครัวยากจนลดลงอย่างเห็นได้ชัด รายได้ต่อหัวประชากรอยู่ที่ 25 ล้านด่งต่อปี ปัจจุบัน ส้มกาวฟองมีเครื่องหมายการค้าและได้มาตรฐาน VietGap ส่วนตำบลหายฟองจะให้การช่วยเหลือด้านปุ๋ยและพันธุ์พืช โดยเฉพาะครอบครัวยากจน”

ที่ตำบลบั๊กฟองมีหลายครอบครัวปลูกส้มและสร้างความร่ำรวยจากผลไม้ชนิดนี้ โดยครอบครัวที่มีพื้นที่ปลูกส้มน้อยที่สุดก็มีพื้นที่นับพันเฮกตาร์ และครอบครัวที่ปลูกส้มมากที่สุดมีพื้นที่นับหมื่นเฮกตาร์ เมื่อเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวของนาง เจิ่นถิต๊าม ในหมู่บ้านหายฟอง ตำบลบั๊กฟอง สวนส้มของเธอที่ปลูกรอบๆบ้านและเนินเขาได้เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว นาง เจิ่นถิต๊ามได้เผยว่า ครอบครัวของเธอเริ่มปลูกส้มเมื่อ 10 ปีก่อน โดยในตอนแรก มีพื้นที่ไม่กี่พันตารางเมตร แต่ปัจจุบัน มีพื้นที่ปลูกส้มกว่า 2 เฮกตาร์ และได้มาตรฐาน VietGap จากการเปลี่ยนมาปลูกส้มแทนการปลูกอ้อยได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น ปีนี้ ครอบครัวของเธอสามารถเก็บส้มได้เกือบ 70 ตัน มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านด่งต่อเฮกตาร์ เมื่อเทียบกับการปลูกผลไม้อื่นๆ การปลูกส้มทำรายได้มากที่สุด

ที่ตำบลบั๊กฟองมีหลายครอบครัวปลูกส้มและสร้างความร่ำรวยจากผลไม้ชนิดนี้

นาย หวอหงอกเกียน เลขาธิการพรรคสาขาอำเภอกาวฟองได้เผยว่าทางอำเภอถือการปลูกส้มเป็นอาชีพหลักในการผลิตเกษตร มีส่วนร่วมสำคัญต่อการยกระดับรายได้และการสร้างฐานะให้แก่ประชาชน ในเวลาที่ผ่านมา กาวฟองพัฒนาพื้นที่ปลูกส้มอย่างยั่งยืน โดยบรรลุเกือบ 3 พันเฮกตาร์ โดยเน้นลงทุนด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ยกระดับคุณภาพ เพิ่มผลผลิตและรักษาเครื่องหมายการค้าส้มกาวฟองอย่างยั่งยืน “พวกเราให้ความสำคัญต่อการประชาสัมพันธ์และรักษาเครื่องหมายการค้านี้ เพราะนี่คือผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีศักยภาพ จุดแข็งและเงื่อนไขเพื่อให้ประชาชนสร้างความร่ำรวยบนพื้นแผ่นดินของตน พวกเราต้องค้ำประกันการวางแผนเพื่อให้เขตปลูกส้มได้ส้มที่สะอาดและมีคุณภาพเพื่อนำไปขายในตลาด มุ่งสู่การขยายการพัฒนาเขตปลูกส้มนี้ในพื้นที่วางแผน ก่อสร้างตลาดและโรงงานแปรรูปส้มเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งภายในและต่างประเทศ”

ควบคู่กับการพัฒนาขอบเขตการผลิต คุณภาพของส้มกาวฟองได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น จนถึงขณะนี้ สามารถยืนยันได้ว่า ส้มกาวฟองได้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของจังหวัดหว่าบิ่ง นำคุณค่า ศักยภาพการพัฒนาการเกษตรและเศรษฐกิจมาให้แก่ชนเผ่าที่นี่.