“ประธานโฮจิมินห์ไม่เพียงแต่เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนามเท่านั้น หากเป็นบุคคลสำคัญของโลก ดังนั้นเป็นวีรบุรุษของโลก ซึ่งการที่ทำสัญลักษณ์ อนุสรณ์สถานซึ่งเป็นที่สำคัญของบุคคลของโลก ซึ่งเป็นเกียรติประวัติของจังหวัดพิจิตร รัฐบาลไทย ดังนั้น ถือว่าเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติของบุคคลสำคัญของโลก ดังนั้นมันเปรียบเป็นตัวอย่าง มีการทำความดีให้แก่บ้านเกิดเมืองนอน นึกถึงประธานโฮจิมินห์แล้วเรารักบ้านเกิดได้เที่ยวเดียวที่ประธานโฮจิมินห์ทำไว้ อบอุ่นมาก”

นี่คือความคิดเห็นของคุณ วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรเมื่อพาคณะผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามมาเยือนอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ที่ตำบลป่ามะคาบ จังหวัดพิจิตร และพบปะกับชาวไทยที่มีน้ำใจต่อประธานโฮจิมินห์ เมื่อเดินทางเข้าเขตนี้ พวกเราได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ลานหญ้าสีเขียวที่มีต้นไม้ร่มรื่นและเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว

แขกที่มาเยื่อนอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์

ถึงแม้ปัจจุบันร่องรอยการเคลื่อนไหวปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์ที่หมู่บ้านดงเหลืออยู่ไม่มาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบอกเล่าของผู้สูงอายุ แต่ในใจของชาวท้องถิ่นในหมู่บ้านดง ประธานโฮจิมินห์ ผู้นำของประชาชาติเวียดนามยังคงมีบทบาทสำคัญพิเศษ นาย เฉลิม แพพ่วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่ามะคาบ แสดงความภาคภูมิใจที่ประธานโฮจิมินห์ได้เลือกที่นี่เป็นฐานการเคลื่อนไหวปฏิวัติแห่งแรกในประเทศไทย “ตั้งแต่ผมตอนเป็นเด็ก เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ผมก็เป็นกำนันต่อจากพ่อผม และมาเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลมาโดยตลอด คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า สถานที่ตรงนี้เป็นหมู่บ้านที่คนยวนมาอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่การทำมาหากินก็เหมือนกับชาวไทย สมัยก่อนเพื่อมาเดินนี้ได้ต้องเดินเท้า ลงจากสถานีรถไฟ เดินเท้ามาอย่างเดียว กลับทางเรือ ได้สืบทราบว่า ตรงนี้คือที่อยู่ของวีรบุรุษของโลกคือท่านประธานโฮจิมินห์ เราก็ทราบคราวๆว่า สมัยก่อนไม่มีอะไรที่ยืนยันแน่ชัดว่า ประธานโฮจิมินห์มาอยู่ตรงนี้จริง เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ประธานโฮจิมินห์ได้ให้เกียรติตำบลป่ามะคาบ เป็นที่พักพาอาศัย เป็นจุดนัดพบของคนยวน เพื่อที่จะศึกษาหารือวางแผนในการกอบกู้เอกราชประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน ผมอยากทำตรงนี้ให้สมกับเกียรติวีรบุรุษของโลก”

นาย เฉลิม แพพ่วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่ามะคาบ

ในช่วงที่อยู่อาศัยที่หมู่บ้านดง ประธานโฮจิมินห์ได้ปรับตัวเข้ากับชีวิตของชาวท้องถิ่น โดยในตอนกลางวัน เหงียนอ๊ายก๊วก หรือประธานโฮจิมินห์ ทำนาและเลี้ยงสัตว์ ในตอนกลางคืน ท่านประชุมกับชาวเวียดนามที่รักชาติเพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์การเมืองในเวียดนาม ตลอดจนภารกิจการปลดปล่อยประเทศ ประธานโฮจิมินห์ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ดังนั้นจึงมีไม่กี่คนในหมู่บ้านที่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับท่าน แต่เมื่อทราบว่า ผู้นำของเวียดนามเคยอยู่อาศัยที่หมู่บ้านดง ชาวไทยหลายคนก็รู้สึกภาคภูมิใจและอยากศึกษาเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ ไม่เพียงแต่ผู้สูงอายุเช่นนาย ธง แจ่มศรี อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ซึ่งปัจจุบันมีอายุเกือบ 100 ปี หากความทรงจำเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ยังได้รับการสืบทอดถึงชาวไทยเชื้อสายเวียดนามรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 เช่น นางสาว สุวิมล มงคลสง่า อายุ 30 ปี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามรุ่นที่ 3 ที่หมู่บ้านดง ตำบลป่มะคาบ จังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่ดูแลด้านวัฒนธรรมของตำบลป่ามะคาบ

นางสาว สุวิมล มงคลสง่า

ในตอนเป็นเด็ก คุณปู่ของเธอได้เล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องราวของปิตุภูมิและประธานโฮจิมินห์ ด้วยความรักและความผูกพันกับปิตุภูมิเวียดนาม ได้ทำให้นางสาว สุวิมล มงคลสง่า มีความประสงค์ว่าเมื่อโตขึ้นจะมีส่วนร่วมต่อประเทศเวียดนาม ซึ่งการเป็นเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์ได้ช่วยให้ความฝันของเธอกลายเป็นความจริง “ดิฉันเป็นรุ่นหลานค่ะ มีคุณปู่เป็นเชื้อสายเวียดนาม แต่พูดภาษาเวียดนามไม่ค่อยได้ ดิฉันมาที่นี่บ่อย เพระปกติทำงานเกี่ยวกับที่นี่ด้วย แล้วก็จะได้ศึกษาไปในตัว เพราะได้ทำให้รู้ว่า บรรพบุรุษมีที่มาเป็นอย่างไร ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ทำให้ได้มายืนที่จุดนี้ ลุงโฮคือผู้นำ เป็นตัวอย่างทำเราทำปฏิบัติตาม ทัศนะคติจากลุงโฮก็ทำให้เราได้ความรู้ ความสามารถ อยากจะนำมาปฏิบัติใช้ให้กับคนที่นี่ เพราะว่า ประธานโฮจิมินห์คือผู้นำที่เราสามารถปฏิบัติในชีวิตประจำวัน”

นางพรเพ็ญ แพพ่วง

เช่นเดียวกันกับหลาน นางพรเพ็ญ แพพ่วง อายุเกือบ 50 ปีรู้สึกปลื้มปิติยินดีมากที่อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ที่ตำบลป่ามะคาบได้รับการก่อสร้าง และอีกไม่นานจะมีการเปิดอนุสรณ์สถานฯอย่างเป็นทางการ อนุสรณ์สถานฯแห่งนี้ได้ช่วยให้เธอ ชาวไทย รวมทั้งชาวไทยเชื้อสายเวียดนามแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อผู้นำของประชาชาติ และทำให้ผู้ที่มีสายเลือดเวียดนามไม่ลืมรากเหง้าของตน “เมื่อพ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อบอกว่า พ่ออยากไปเวียดนาม พ่อเป็นคนอดทน ขยัน เมื่อแต่งงานไป พ่อก็ไม่ค่อยมาที่นี่ เพราะต้องทำมาหากิน อยากมีส่วนร่วมและอยากทำมาตรงนี้ถ้าอยากมีใครชี้แนะชี้นำ เพราะตนเองก็ไม่รู้วัฒนธรรมของคนเวียดนามต้องทำอะไรบ้าง เพราะพ่อ แม่และย่าเสียไปหมดแล้ว ดิฉันภูมิใจเพราะการก่อสร้างเขตนี้ทำให้ดิฉันทราบว่า ลุงโฮและบรรพบุรุษเก่ง”

นาย สมพร เล็กอุทัยพานิช  ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลป่ามะคาบ แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับอนุสรณ์สถานโฮจิมินห์ให้แก่คณะผู้สื่อข่าวของวีโอวี

เกือบ 1 ศตวรรษได้ผ่านพ้นไป แต่น้ำใจของชาวไทยที่มีต่อประธานโฮจิมินห์ยังคงมีอยู่ตลอดไป เมื่อกล่าวถึงประธานโฮจิมินห์ ประชาชนที่นี่ยังคงรู้สึกตื้นตันใจ เป็นเกียรติและภาคภูมิใจเพราะท่านได้เลือกบ้านดงคือจุดแรกในประเทศไทยในกระบวนการเคลื่อนไหว ซึ่งสิ่งนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งที่มีความหมายของจังหวัดพิจิตรและเป็นแบบอย่างเพื่อให้ชนรุ่นหลังศึกษาและปฏิบัติตาม.