อินโดนีเซียเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญของเวียดนาม

(VOVworld) –  สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับ อินโดนีเซียที่ประธานโฮจิมินห์และประธานาธิบดีซูการ์โนผู้ล่วงลับสถาปนา รวมทั้งผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศหลายรุ่นทำนุบำรุงกำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยเฉพาะ ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการค้า


(VOVworld) – สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียที่ประธานโฮจิมินห์และประธานาธิบดีซูการ์โนผู้ล่วงลับสถาปนา รวมทั้งผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศหลายรุ่นทำนุบำรุงกำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยเฉพาะ ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการค้า

อินโดนีเซียเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญของเวียดนาม - ảnh 1
ฟอรั่มการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวเวียดนาม อินโดนีเซีย(Photo:Internet)

ในหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจอินโดนีเซียดีขึ้นเรื่อยๆและกลายเป็นจุดนัดพบสำหรับนักธุรกิจของหลายประเทศในภูมิภาคและโลกโดยอัตราการขยายตัวเมื่อปี๒๐๑๑บรรลุร้อยละ๖.๕และคาดว่า จะบรรลุร้อยละ๖.๓ถึงร้อยละ๖.๗ในปี๒๐๑๒ อินโดนีเซียเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่๑๕และเป็นเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็วอันดับ๒ของโลก แม้จะประสบผลสำเร็จมากมายแต่อินโดนีเซียยังต้องฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายนานัปการ เช่น การรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน  สร้างงานทำให้แก่แรงงานที่กำลังเพิ่มขึ้นและแก้ปัญหาความยากจน นอกจากนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังผลักดันการดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ในจำนวนหุ้นส่วน เวียดนามเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญของอินโดนีเซียซึ่งนายMayerfas เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามได้ยืนยันเช่นนี้ในบทปราศรัยในงานเลี้ยงที่จัดขึ้น ณ กรุงฮานอย เมื่อเร็วๆนี้ในโอกาสฉลองวันชาติอินโดนีเซียครบรอบ๖๗ปี“ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งซึ่งทั้งสองประเทศกำลังพยายามเพื่อให้มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น๒เท่าในปี๒๐๑๕เมื่อเทียบกับปี๒๐๑๑คือ๔พัน๗ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น การผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเวียดนามเป็นหนึ่งในปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในความสัมพันธ์ต่างประเทศของอินโดนีเซียนับตั้งแต่ปี๑๙๕๕”

อินโดนีเซียเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญของเวียดนาม - ảnh 2
นายMayerfas เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนาม(Photo:Internet)

ส่วนนาย Bùi Thanh Sơnรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า  รัฐบาลและประชาชนเวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะขยายความสัมพันธ์กับอินโดนีเซียยิ่งขึ้นและมุ่งสู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้สมกับสถานะ บทบาทและศักยภาพความร่วมมือที่มีอยู่ของทั้งสองฝ่าย“สำหรับเวียดนาม อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามแนวทางแห่งความสมดุลย์โดยได้บรรลุ๔พัน๗ร้อยล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี๒๐๑๑และใน๗เดือนที่ผ่านมาบรรลุกว่า๒พัน๕ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ความร่วมมือด้านความมั่นคง การป้องกันประเทศ การเกษตร การศึกษา ฝึกอบรม พลังงาน วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวนับวันยิ่งได้รับการขยายและนำมาซึ่งผลสำเร็จที่น่ายินดี ตอบสนองผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย”   ผลของการสำรวจแบบสอบถามที่สภาที่ปรึกษาพาณิชย์อาเซียนจัดขึ้นสำหรับนักธุรกิจและวงการผู้นำอุตสาหกรรมในภูมิภาครวมทั้งหมด๔๐๕คน เมื่อเร็วๆนี้ ปรากฏว่า ครึ่งหนึ่งถือว่าอินโดนีเซียเป็นจุดนับพบของนักลงทุน รองลงมาคือเวียดนาม  จากการเป็นตลาดที่ดึงดูดใจมากที่สุดในภูมิภาค ทั้งเวียดนามและอินโดนีเซียต่างมีความพยายามผลักดันความสัมพันธ์ทางการค้า เวียดนามส่งออกโทรศัพท์และอะไหล่ เหล็กกล้า  ข้าว น้ำมันดิบ และกาแฟไปยังอินโดนีเซียและนำเข้ากระดาษทุกชนิด น้ำมันสัตว์ และน้ำมันปาล์ม ผ้า เครื่องจักรอุปกรณ์ เครื่องเฟอร์นิเจอร์จากอินโดนีเซีย ใน๖เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังอินโดนีเซียบรรลุ๑พัน๑ร้อย๓๐ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๒๐.๑ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๑ ส่วนมูลค่าการนำเข้าบรรลุ๑พัน๗๐ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการค้าของทั้งสองประเทศ   เพื่อผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี ในเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้จัดการเยี่ยมเยือนซึ่งกันและกันในทุกระดับ เช่น การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของท่านซูซีโล บำบัง ยูโดโยโนเมื่อปี๒๐๑๐ การเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการของท่านNguyễn Tấn Dũngนายกรัฐมนตรีเวียดนามเมื่อปี๒๐๑๑ การพบปะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย เมื่อเดือนกรกฎาคม และการประชุมของคณะกรรมการร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทวิภาคี ณ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาซึ่งทั้งนี้และทั้งนั้นจะสร้างพลังขับเคลื่อน อำนวยความสะดวกและเปิดโอกาสเข้าถึงเพื่อทำความเข้าใจความร่วมมือในการประกอบธุรกิจให้แก่นักธุรกิจของทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมผลักดันมูลค่าการค้าทวิภาคีให้เพิ่มขึ้นให้สมกับศักภาพและสถานะของทั้งสองประเทศ./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด