( VOVworld )-ชาวเวียดนามที่มาเยือนก๋วง ตริไม่ใช่เพราะที่นี่มีทัศนียภาพที่สวยงามและอาหารอร่อย หากแต่ว่ามาเพื่อแสดงความเคารพและสำนึกในบุญคุณต่อทหารพลีชีพเพื่อชาติ โดยมักจะแวะเยือนกำแพงเก่าก๋วง ตริ สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติระดับชาติทางหลวงหมายเลข ๙ และสุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติระดับชาติเจื่อง เซิน

คุณลุงฝ่ามซวนแทงที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดหล่าง เซินเขตเขาภาคเหนือมักจะกลับมาสมรภูมิก๋วง ตริในเดือนกรกฎาคมด้วยรถโดยสารเพื่อเยี่ยมเยือนเพื่อนร่วมรบที่เสียชีวิตไปแล้ว  คุณลุงแทงเป็นคนสุดท้ายคนหนึ่งที่ออกจากกำแพงเก่าก๋วง ตริในการสู้รบ ๘๑ วัน ๘๑ คืนเพื่อปกป้องกำแพงเก่าฯเมื่อปีค.ศ.๑๙๗๒  คุณลุงแทงคุยว่า ท่านได้ทุ่มเทตลอดวัยหนุ่มซึ่งเป็นวันใสให้แก่สมรภูมิก๋วง ตริ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เพื่อนร่วมรบของท่านได้สละชีพอย่างไม่มีวันกลับ ทุกครั้งเมื่อกลับมาเยือนก๋วง ตริท่านมักจะเอาดินหนึ่งกำกับน้ำที่ใส่ในปล้องไม้ไผ่ของบ้านเกิดติดมือมา ท่านโปรยดินลงในหลุมฝังศพ ส่วนน้ำนั้นจะเทลงไปในแม่น้ำแถก หาน ทั้งนี้เพื่อทำให้วีรชนพลีชีพเพื่อชาติได้อยู่ใกล้กับบ้านเกิด คุณลุงแทงกล่าวว่า  “  วันนี้ผมกลับมาเยี่ยมเพื่อนร่วมรบเพื่อปล่อยกระทงให้แก่ดวงวิญญาณของเพื่อนร่วมรบ ผมรู้สึกบอกไม่ถูก ผมคิดถึงเพื่อนร่วมรบที่ได้สละชีพเพื่อชาติ ณ ที่นี่และพี่น้องประชาชนที่พลีชีพ ณ แม่น้ำสายนี้  พวกเรากลับมาที่นี่ในฐานะผู้ชนะ วิญญาณของเพื่อร่วมรบ ณ ที่นี่ก็รู้สึกดีใจต่อชัยชนะ ”

ที่จังหวัดก๋วง ตริมีสุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติ ๗๒ แห่งรวมหลุมฝังศพทหารสละชีพเพื่อชาติประมาณ ๖ แสน ๕ หมื่นคน ที่นี่เป็นสถานที่แห่งเดียวของประเทศที่มีสุสานระดับชาติสองแห่งได้แก่ สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติทางหลวงหมายเลข ๙ และสุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่อง เซิน ตำบลทุกแห่งต่างมีสุสานทหารสละชีพเพื่อชาติ มีตำบลบางแห่งมีสุสานถึง ๔ แห่ง ส่วนกำแพงเก่าก๋วง ตริ และแม่น้ำแถก หานถือเป็นสุสานไร้หลุมฝังศพ ณ ที่แห่งนี้มีทหารวัยหนุ่มได้สละชีพเพื่อมาตุภูมิในวัย ๑๙และ๒๐ปี

ช่วงนี้ ที่สุสานทุกแห่งในก๋วง ตริจะเต็มไปด้วยควันธูปและดอกไม้ โดยแม่พาลูกไปจุดธูปถวายพ่อที่ตนยังไม่ได้เห็นหน้า คุณแม่หลังค่อม ตาเหม่ออาศัยตะบองเดินทางมาสุสานเพื่อจุดธูปที่หลุมฝังศพของญาติและลูก ฝ่ามือของท่านผอมหยาบลูบป้ายหลุมฝังศพอย่างเอนดูเหมือนกำลังกอดลูก ณ ที่นั่นมีผู้คนหลั่งไหลมาบูชาดวงวิญญาณของเพื่อนร่วมรบที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว คุณเหงวียน ถิ่ แหง พื้นเพที่เมืองท่าไฮ ฟอง มาเที่ยวสุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่อง เซิน ที่ ก๋วง ตริเป็นครั้งแรกรู้สึกบอกไม่ถูกจนร้องไห้ “ รู้สึกบอกไม่ถูก เมื่อเห็นทหารอยู่ใต้ผืนดินนี้รู้สึกปวดร้าวใจมาก ความเสียสละอย่างวีระอาจหาญของพวกเขาเป็นสิ่งมหัศจรรย์  นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันมาที่นี่เพื่อจุดธูปถวายแด่นักรบสละชีพเพื่อชาติถือเป็นการส่งความสำนึกในบุญคุณต่อทหารพลีชีพเพื่อชาติอย่างหาญกล้า ”

สำหรับชาวก๋วง ตริ เดือนกรกฎาคมมีวันขึ้น ๑๕ ค่ำ สองวันได้แก่ วันขึ้น ๑๕ ค่ำตามจันทรคติหรือวันรำลึกถึงพระคุณแม่ ส่วนวันที่ ๒๗ กรกฎาคมตามสุริยคติเป็นวันทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ดวงวิญญาณวีรชนพลีชีพเพื่อชาติ ซึ่งในวันนั้น กำแพงเก่าก๋วง ตริ แม่น้ำแถก หานและสุสาน ๗๒ แห่งตระกาลตาไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันและเทียนหลายหมื่นเล่มที่ลอยบนแม่น้ำส่งประกายวาววับ  สำหรับจังหวัดก๋วง ตริ เดือนกรกฎาคมมีเหตุการณ์ใหญ่ๆที่น่าจดจำไม่ว่าจะเป็นชัยชนะทางหลวงหมายเลข ๙ –แคแซงเมื่อเดือนกรกฎาคมปีค.ศ. ๑๙๖๘ การต่อสู้เพื่อปกป้องกำแพงเก่าก๋วง ตริเมื่อเดือนกรกฎาคมปีค.ศ.๑๙๗๒ ตลอดจนเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนหลั่งไหลมาเพื่อแสดงความสำนึกในคุณูปการของผู้ที่เสียชีวิตต่อชาติบ้านเมืองตามประเพณีของเวียดนามที่ว่า “ ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มา ”  ในโอกาสนี้เช่นกัน ได้มีการซ่อมแซมและยกระดับกิจการต่างๆ มีการเปิดป้ายอนุสาวรีย์ชัยและป้ายโบราณสถาน มีการมอบบ้านธารน้ำใจให้แก่ครอบครัวที่อยู่ในเป้านโยบายที่อบอุ่นไปด้วยน้ำใจแห่งเพื่อนร่วมรบ  สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้มีส่วนร่วมของผู้มีใจกุศลทั้งอยู่ใกล้และไกล อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของพี่น้องทั้งประเทศต่อวีรชนและทหารพลีชีพเพื่อชาติ   ในโอกาสนี้เช่นกัน ทางจังหวัดก๋วง ตริได้จัดพิธีเปิดป้ายอนุสาวรีชัยเกื่อ เหวียต รวมมูลค่าก่อสร้าง ๓ หมื่นล้านด่งจากเงินบริจาคขององค์การ นักธุรกิจและผู้มีใจกุศล  ส่วนรายการ “ ความกล้าหาญและศักดิ์สิทธิ์แห่งมาตุภูมิ บรรดาธนาคารพาณิชย์ได้บริจาคเงินมูลค่า ๑ แสนล้านด่งเพื่องานตอบแทนบุญคุณของจังหวัดก๋วง ตริ  นายเหงวียน ดึ๊ก เหืองรองประธานกรรมการบริหารธนาคารเลียน เวียต โพสต์ แบ็งค์ เปิดเผยว่า  “ ความเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตของทหารหาญทำให้มีวันนี้  แม้พวกเราจะชดเชยด้วยทรัพย์สินก็ไม่สามารถทดแทนคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาและครอบครัวที่ยากจนที่กำลังอาศัยอยู่ที่นี่ได้  พวกเราอยากส่งสานส์ไปยังคนรุ่นใหม่ว่า ต้องพยายามมากขึ้นเท่าที่จะทำได้เพื่อสมกับความเสียสละและความสูญเสียของบรรพบุรุษ ”

สงครามได้กลายเป็นอดีตมา ๔๐ ปีแล้ว  วีรชนสละชีพเพื่อชาติได้อยู่ใต้ผืนดินแห่งมาตุภูมิแล้ว แต่กิจกรรมแสดงความสำนึกในบุญคุณและน้ำใจต่อวีรชนพลีชีพเพื่อชาติและผืนดินก๋วง ตริของชาวเวียดนามทุกคนยังคงได้รับการทะนุถนอมและสืบสานมารุ่นแล้วรุ่นเล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด .