การท่องเที่ยวหวนรำลึกประวัติศาสตร์เส้นทางเจื่องเซินแห่งตำนาน

(VOVWORLD) -ในสมัยสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติเส้นทางเจื่องเซิน-โฮจิมินห์มีบทบาทสำคัญในการลำเลียงเสบียงกรังเพื่อสนับสนุนให้แก่สมรภูมิภาคใต้ ปลดปล่อยประชาชาติรวมประเทศเป็นเอกภาพ ดังนั้นบนเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์นี้ ได้มีเขตอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ต่างๆที่ผูกพันกับชัยชนะที่รุ่งโรจน์และความเสียสละอย่างกล้าหาญของทหารและเยาวชนอาสารวมทั้งประชาชนที่อยู่ในแนวรบต่างๆ แม้สงครามได้ผ่านพ้นไปแล้วหลายสิบปีแต่อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ต่างๆบนเส้นทางเจื่องเซินแห่งตำนานนั้นยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพื่อหวนระลึกถึงประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจของประชาชาติเวียดนาม
การท่องเที่ยวหวนรำลึกประวัติศาสตร์เส้นทางเจื่องเซินแห่งตำนาน - ảnh 1หน่วยทหารอาสาสมัครเยือนท่าเรือเก่า ลองด๋าย

จากนครดงฮ่าจังหวัดกว๋างตริเดินทางไปตามเส้นทางโฮจิมินห์มุ่งหน้ากลับไปยังภาคเหนือประมาณหลายสิบกิโลเมตรก็ถึงเขต แคฮ้อ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางหมายเลข559-เส้นทางเจื่องเซินแห่งตำนาน  แคฮ้ออยู่ในเชิงเขาโดงนอก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้อำเภอหวิงลิงห์ จังหวัดกว๋างตริ เป็นที่ตั้งหลักของหน่วยทหารพิเศษที่เรียกย่อว่าหน่วย559 เพื่อสถานที่รวมอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุนสมรภูมิภาคใต้ โดยเมื่อปี2011 แคฮ้อ ได้รับการรับรองเป็นแหล่งประวัติศาสตร์แห่งชาติและได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในเส้นทางการท่องเที่ยวหวนระลึกประวัติศาสตร์และเชิงจิตวิญญาณที่ประกอบด้วย สะพานแขวนเบ๊นตั๊ด ศูนย์บัญชาการแนวหลังสังกัดกองบัญชาการ559 อ.ยอลิงห์ สุสานทหารพลีชีพเจื่องเซิน สนามบินต่าเกิน ในเขตจังหวัดกว๋างตริหรือ ช่องเขาด๊าแดว ถ้ำต๊ามโก  ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่งห์ เป็นต้น ซึ่งในจำนวนแหล่งประวัติศาสตร์นั้น สุสานทหารพลีชีพแห่งชาติเจื่องเซินคือสถานที่ที่ทุกคณะต่างแวะเยือนเพื่อจุดธูปสักการะทหารที่พลีชีพในสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติ นายโห่แทงฟุก อดีตทหารเจื่องเซิน รู้สึกซาบซึ้งใจเมื่อได้กลับมาเยือนสมรภูมิเก่าและสะพานเบ๊นตั๊ดเพื่อรำลึกถึงสหายที่สละชีพในสงคราม

นี่เป็นสถานที่แห่งการจารึกประวัติศาสตร์ของประชาชาติเพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รับทราบและสานต่อ พร้อมทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย”

การท่องเที่ยวหวนรำลึกประวัติศาสตร์เส้นทางเจื่องเซินแห่งตำนาน - ảnh 2ท่าเรือข้ามฟากซวนเซิน 

ในช่วงสงครามกู้ชาติ หมู่บ้านหลายแห่งในจังหวัดกว๋างบิ่งห์ถูกทำลายอย่างหนักเพราะเป็นจุดต้นทางเพื่อรวมสิ่งของที่สนับสนุนให้แก่สมรภูมิภาคใต้ผ่านเส้นทางเจื่องเซิน ปัจจุบันในจังหวัดกว๋างบิ่งห์มีแหล่งประวัติศาสตร์121แห่งโดยเป็นเขตโบราณสถานแห่งชาติ35แห่ง โบราณสถานพิเศษแห่งชาติ18แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแหล่งประวัติศาสตร์บนเส้นทางโฮจิมินห์ โดยเฉพาะโบราณสถานทางประวัติศาสตร์บนเส้นทางหมายเลข20แห่งชัยชนะเช่น ท่าเรือข้ามฟาก ซวนเซิน ถ้ำต๊ามโก เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันนี้แหล่งประวัติศาสตร์ต่างๆพร้อมทัศนียภาพที่สวยงามอย่างถ้ำฟองญาแก๋บ่าง มรดกธรรมชาติโลกในจังหวัดได้กลายเป็นศักยภาพเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว นายดั๋งดงฮ่า รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดกว๋างบิ่งห์เผยว่า ข้อมูลสถิติด้านการท่องเที่ยวเมื่อปี2018ได้ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวเกือบ3แสน5หมื่นคนเที่ยวถ้ำฟองญาแก๋บ่าง นักท่องเที่ยว5หมื่นคนเยือนถ้ำต๊ามโก และอีกกว่า1หมื่น8พันคนมาเยือนวิหารทหารพลีชีพที่ท่าเรือข้ามฟากลองด๋าย 

"ปัจจุบันทางการจังหวัดได้เน้นความสนใจพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณเยือนสมรภูมิเก่า แหล่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวด้วยการขยายรูปแบบผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ วางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวควบคู่กับการพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์และส่งเสริมการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว"

คณะผู้บริหารจังหวัดเผยว่า ควบคู่กับแหล่งทัศนียภาพที่มีชื่อเสียงต่างๆของกว๋างบิ่งห์ กว๋างตริ การท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณและหวนรำลึกถึงความทรงจำแห่งสงครามถือเป็นเครื่องหมายการท่องเที่ยวที่กำลังดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งได้เป็นศักยภาพเพื่อให้จังหวัดพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเวลาข้างหน้า.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด