วัฒนธรรมอาหารของเมืองลายโจว์

(VOVWORLD) -จังหวัดลายโจว์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกภาคเหนือของเวียดนาม ไม่เพียงแต่มีทัศนียภาพที่สวยงามและชาวบ้านมีไมตรีจิตที่ดีเท่านั้นหากยังดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเพราะวัฒนธรรมอาหารการกินที่อร่อยน่าประทับใจ โดยอาหารทุกอย่างล้วนทำจากผลผลิตเกษตรที่ชาวบ้านผลิตเองหรือเก็บจากธรรมชาติที่มีความผูกพันธ์กับชีวิตประจำวันของชนเผ่าต่างๆในแถบนี้
วัฒนธรรมอาหารของเมืองลายโจว์ - ảnh 1 ถาดอาหารของชาวเผ่าไทในลายโจว์

ชนกลุ่มน้อยต่างๆในจังหวัดหลายโจว์ผูกพันธ์กับการทำเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์เพื่อดำรงชีวิต โดยการปลูกผักและเลี้ยงไก่เป็ดวัวควายนั้นนอกจากตอบสนองความต้องการของครอบครัวแล้วก็จะเป็นแหล่งอาหารสำรองเมื่อมีงานสำคัญๆของชุมชน ที่จังหวัดลายโจว์นั้นขึ้นชื่อด้วยเมนูอาหาร หมู “กั๊บแนก”  ซึ่งเป็นชื่อเรียกของหมูพันธุ์พื้นเมืองที่มีขนาดประมาณ10-15กิโลกรัมและชาวบ้านมักจะหนีบหมูสองตัวไว้ที่แขนสองข้างเพื่อไปจ่ายตลาดแลกเปลี่ยนสินค้ากัน หมูพันธุ์นี้กินแต่พืชและใบไม้ในป่าจึงมีเนื้อหอมอร่อยไม่มีมัน โดยเมนูเนื้อหมู “กั๊บแนก”นี้มักจะมีหมูย่าง หมูนึ่ง และหมูรมควัน “เนื้อหมูรมควันเป็นหนึ่งในเมนูอาหารพื้นเมืองของพี่น้องชนกลุ่มน้อยเขตเขา ซึ่งเป็นอาหารหลักในหน้าหนาวเพราะเนื้อจะเก็บได้นานแห้งเร็วไม่เสีย โดยชาวบ้านจะชำแหละเนื้อหมูให้เป็นชิ้นใหญ่ หมักด้วยเครื่องปรุงต่างๆเช่น เกลือ พริกป่น เมล็ดพืชป่าแล้วทิ้งไว้สองสามวัน หลังจากนั้นจะนำไปตากบนชั้นวางตั้งเหนือเตาไฟเพื่อรมควันให้แห้ง จะตากไว้จนกว่าเนื้อจะแห้งก็ถือว่าสุกทานได้แล้ว”

เมื่อมาเที่ยวลายโจว์ มีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือการเที่ยวตลาดนัด หย่าวซาน หรือสิ่นโห่ เพราะมาที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตในการจ่ายตลาดและวัฒนธรรมอาหารการกินของหลายชนเผ่าโดยเฉพาะข้าวเหนียวสีม่วงร้อนๆหอมกลิ่มใบไม้และกลิ่นข้าวไร่ที่ไม่เหมือนข้าวเหนียวทั่วไป โดยสีม่วงนั้นเอามาจากใบ เขากั๊ม ซึ่งหลังจากเลือกข้าวสารเหนียวชั้นดีก็นำไปแช่น้ำลวกใบ เขากั๊ม ประมาณ3ชั่วโมง เพื่อให้ข้าวเหนียวมีรสชาติอร่อยก็ต้องนึ่งในหม้อไม้บนเตาฟืน เมื่อข้าวสุกนิ่ม เหนียวไม่ติดมือไม่แฉะและหอมชวนกินก็ถือว่าได้แล้ว ข้าวเหนียวสีม่วงนี้มักจะทานคู่กับหมูและปลาย่าง

แม้จะเป็นท้องถิ่นเขตเขาแต่ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดลายโจว์นั้นประกอบด้วยลำธารสระน้ำหลายแห่งซึ่งเป็นแหล่งที่มาของปลาหลายชนิดที่กลายเป็นอาหารชื่อดังของท้องถิ่น นั่นคือเมนูปลาย่างหรือในภาษาชนเผ่าเรียกว่า “ปาปิ๋งตบ” สำหรับปลาที่ใช้ในเมนูนี้อันดับแรกคือปลาตะเพียน  โดยนำปลาที่เพิ่งจับจากลำธารไปล้างให้สะอาดแล้วผ่าหลัง หมักเครื่องปรุงสูตรพื้นเมืองที่มีเมล็ดมั๊กแค้น ผักหอมป่า พริกและตะไคร้ เป็นต้น หนีบปลาด้วยไม้ไผ่แล้วย่างบนถ่านไฟจนทั้งสองด้านออกสีเหลืองเข้มและมีกลิ่นหอมถึงจะสุกพอดี

วัฒนธรรมอาหารของเมืองลายโจว์ - ảnh 2 สาหร่ายย่างไฟ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่บ้านของชนกลุ่มน้อยเผ่าไทในลายโจว์แน่นอนว่าจะได้ลิ้มลองยำหน่อไม้ดอกกาหลงที่มีรสชาติครบทั้ง5คือฝาด เปรี้ยว เผ็ด หวาน มัน ตามคำแนะนำของชาวบ้านที่นี่ หน่อไม้ที่เลือกมาทำยำนั้นต้องเป็นหน่อไม้ชนิดพื้นเมืองหรือหน่อไม้ขม ส่วนดอกกาหลงก็จะเลือกดอกที่ยังไม่บานและกลีบหนา นอกจากนั้นในส่วนผสมของยำจะต้องมีเนื้อปลาย่างด้วย นางเหงวียนเฟืองแอง นักท่องเที่ยวจากฮานอยกล่าวว่า“ยำหน่อไม้กับดอกกาหลงนั้นมีรสชาดแปลกใหม่และสีสันดูน่าทานมาก มีรสชาดที่เข้มข้น ทั้งความหอม ความหวาน ความเปรี้ยวเผ็ดและออกขมนิดหน่อย ดิฉันประทับใจกับเมนูนี้มาก”

นอกจากนี้แล้วที่ลายโจว์ยังขึ้นชื่อด้วยเมนูอาหารที่ทำจากสาหร่ายที่เก็บตามลำธารเช่น แกงสาหร่าย สาหร่ายย่างไฟ สาหร่ายผัดกระเทียม โดยเฉพาะในเมนูอาหารงานเลี้ยงแต่งงานของชาวบ้านนั้นจะต้องมีอาหารที่ทำจากสาหร่ายด้วย ส่วนเครื่องดื่มนั้นจะต้องลองเหล้ามงเก ซึ่งเป็นเหล้าข้าวโพตที่หมักด้วยเมล็ดเกและใช้น้ำจากลำธาร สู่งฝ่าย เก็บในไหดินและหใัดไว้ ใต้ดินอย่างน้อย2ปีถึงจะดื่มได้  ซึ่งการที่ได้มานั่งล้อมรอบเตาไฟบนบ้านไม้ยกพื้นท่ามกลางอากาศที่เย็นๆของเขตเขายามค่ำคือแล้วลิ้มลองอาหารพื้นเมืองและจีบเหล้ามงเกนั้นจะถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจหรับสำนักท่องเที่ยวทุกคนที่มีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดลายโจว์.           

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด