ทางเข้าอุโมง

อุโมงลับหวิง โม๊กตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแม่น้ำเบ๊น ห่ายที่มีสะพานเหี่ยน เลืองและอยู่บนถนนที่ร่มรื่นไปด้วยทิวไผ่ท่ามกลางเสียงคลื่นทะเลซัดเข้าฝั่ง นับเป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีโลกอีกโลกหนึ่งสำหรับทหารและประชาชนชาวหวิง ลินห์เพื่อต่อสู้ขับไล่ศัตรูช่วงปีค.ศ.๑๙๖๕-๑๙๗๒  คุณเล ถิ่ โต๊ หว่าย ผู้บรรยายและเป็นบุตรของหมู่บ้านอุโมงลับหวิง โม๊กกล่าวว่า “ อุโมงลับหวิง โม๊กเป็นหนึ่งในอุโมงลับใหญ่เล็ก ๑๑๔ แห่งในพื้นที่อำเภอหวิง ลินห์  อุโมงลับ ๑๑๔ แห่งนี้รวมความยาว ๔๒ กิโลเมตร  แต่อุโมงลับหวิง โม๊กเป็นอุโมงที่โดดเด่นที่สุด โดยเป็นสถานที่หลบภัยของชาวบ้านหลายร้อยคนและเป็นสถานที่รวมพลเพื่อส่งเสบียงอาหารและอาวุธให้แก่เกาะโก่น ก๋อและสมรภูมิภาคใต้  อุโมงลับได้รับการก่อสร้างเมื่อปีค.ศ.๑๙๖๖ และแล้วเสร็จในปีถัดมา  ”

ท่ามกลางแสงแดดแรงกล้าในฤดูร้อน แต่เมื่อเหยียบเท้าเข้าไปในอุโมงเราจะรู้สึกถึงความเย็นสบาย อากาศเย็นนี้มาจากระบบถ่ายเทอากาศเพื่อให้หลายร้อยชีวิตมีอากาศหายใจและทำการต่อสู้ได้  เดินลึกเข้าไปใต้แสงไฟเราจะเห็นสีแดงของดินตลอดจนการจัดจุดต่างๆในอุโมงอย่างเป็ระบบไม่ว่าจะเป็นที่พักและที่จัดกิจกรรมต่างๆ

พลังชีวิตของสิ่งปลูกสร้างใต้ดินนี้คือพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ของชาวบ้านที่นี่ที่สร้างความแตกต่างภายในอุโมง  พวกเขาก่อสร้างอุโมงลับเป็นฐานที่มั่นที่มั่นคงโดยมีสามชั้นได้แก่ ชั้นหนึ่งเป็นที่พักของชาวบ้านที่ลึกประมาณ ๑๒ ถึง ๑๕ เมตรจากผิวพื้น  ชั้นสองลึกประมาณ ๑๘ เมตรจากผิวพื้นเป็นสำนักงานของพรรคสาขา คณะกรรมการประชาชนและกองบัญชาการทหาร และชั้นที่สามลึก ๒๒ เมตรเป็นคลังเก็บเสบียงอาหาร พลาธิการและคลังแสงเพื่อป้อนให้แก่เกาะโก่นก๋อตลอดจนสนับสนุนการต่อสู้ของทหารและชาวอุโมงลับหวิง โม๊ก    นายเหงวียน หิว ทั้ง ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดกว่าง จิ่ เปิดเผยว่า นี่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่งไม่มีสอง นายทั้งกล่าว  “ อุโมงนี้เพื่อสนับสนุนการต่อต้านสงครามทำลายล้างภาคเหนือ  หวิง ลินห์เป็นสมรภูมิที่ดุเดือดที่สุด ประชาชนจึงอยู่บนพื้นดินไม่ได้ ต้องย้ายไปอยู่ใต้ดิน ทั้งนี้จึงเกิดไอเดียขุดอุโมงเพื่อให้ชาวบ้านดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย ภายในอุโมงยังมีสถานผดุงครรภ์ด้วยและได้มีเด็ก ๑๗ คนลืมตาดูโลกในสถานผดุงครรภ์แห่งนี้  อุโมงไม่เพียงแต่เป็นฐานที่มั่นต่อสู้ของทหารเท่านั้น หากยังเป็นหมู่บ้านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่น สาธารณสุข การหุงหาอาหาร ที่พักของครอบครัว บ่อน้ำบาดาลและหอประชุมด้วย ”

ท่อถ่ายเทอากาศ

ในช่วงสงครามที่ดุเดือดชาวบ้านและทหารอยู่ในอุโมง โดยในอุโมงยาวประมาณ ๒ กิโลเมตรมีประชาชนอาศัยอยู่ถึง ๑,๒๐๐ คน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงพลังที่ทรหดอดทนของชาวเวียดนามที่ต้องทนรับกับห่าระเบิด  คุณเล ถิ่ โต๊ หว่ายเปิดเผยต่อไปว่า  “ มีหลายคณะมาทัศนะศึกษา ณ อนุสรณ์สถานแห่งนี้ บางคณะยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอุโมง แต่เมื่อมาที่นี่ได้แสดงความรู้สึกว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์  คณะนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและต่างชาติที่เคยเข้าร่วมการสู้รบ ณ ที่นี่ พวกเขาคิดว่า จะมีหลุมเพลาะเพื่อหลบระเบิดแต่ก็แสดงความฉงนสนเท่เพราะความยิ่งใหญ่ของระบบอุโมง  พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า จากมือเปล่าสองข้าง มนุษย์สามารถสร้างระบบหลบระเบิดโดยเฉพาะระเบิดที่ทันสมัยของสหรัฐอเมริกาได้อย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ”

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ความคิดสร้างสรรค์พลังที่แข็งแกร่งและอดทนของชาติหนึ่งได้สะท้อนจากความท้าทายต่างๆและสิ่งปลูกสร้างอันยิ่งใหญ่เช่นอุโมงลับหวิงโม๊ก นักท่องเที่ยวชาวอิตาเลี่ยนแสดงความรู้สึกของตนว่า  “ ทุกสิ่งทุกอย่างได้เกิดขึ้นแล้วและบัดนี้ผมได้ชมสิ่งมหัศจรรย์  พวกเราได้ชมด้วยตาตนเองและประทับใจต่อคนและทิวทัศน์ที่นี่เพราะสวยมาก คนเวียดนามฉลาดมาก ”

อุโมงลับหวิง โม๊ก เป็นหนึ่งในอุโมงลับ ๑๐๐ แห่งของจังหวัดกว่างจิ่ที่ยังคงสภาพเดิม  อุโมงลับหวิง โม๊กเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทีมีคุณค่าในการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ จิตใจรักชาติและทรหดกล้าหาญตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ในการต่อสู้ของบรรพบุรุษ ทั้งนี้เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สำหรับชาวกว่างจิ่รุ่นแล้วรุ่นเล่าและชาวเวียดนามทุกคนด้วย.