ศิลปินเพลงเสิม ห่าถิ่เกิ่ว-ปรมาจารย์เพลงขอทานของเวียดนาม

( VOVworld )-ครูห่าถิ่เกิ่วเข้าสู่ชีวิตการเป็นศิลปินเพลงขอทานมาตั้งแต่วัยเด็ก  ท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถในการร้องเพลงขอทานที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยสามารถใช้กิริราท่าทาง น้ำเสียงและคำพูดที่สร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการใช้ซออู้และกลับประกอบการร้องได้อย่างชำนาญจนทำให้ท่านได้รับฉายาว่า หนึ่งเดียวของเวียดนาม

( VOVworld )-ครูห่าถิ่เกิ่วเข้าสู่ชีวิตการเป็นศิลปินเพลงขอทานมาตั้งแต่วัยเด็ก  ท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถในการร้องเพลงขอทานที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยสามารถใช้กิริราท่าทาง น้ำเสียงและคำพูดที่สร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการใช้ซออู้และกลับประกอบการร้องได้อย่างชำนาญจนทำให้ท่านได้รับฉายาว่า หนึ่งเดียวของเวียดนาม

ศิลปินเพลงเสิม ห่าถิ่เกิ่ว-ปรมาจารย์เพลงขอทานของเวียดนาม - ảnh 1
ศิลปินห่าถิ่เกิ่ว

ที่ท่านกำลังรับฟังอยู่นี้คือเพลงเสิ่มหรือเพลงขอทาน “ ทำบุญที่วัด ” โดยศิลปินห่าถิ่เกิ่วแต่งและร้องเอง ซึ่งเมื่อได้ฟังท่านร้องแล้วมีน้อยคนนักที่จะคิดว่าเป็นน้ำเสียงของศิลปินที่มีอายุกว่า ๙๐ ปี  ในวงการผู้ร้องเพลงพื้นบ้าน นักวิชาการและผู้ที่ชื่นชอบศิลปินห่าถิ่เกิ่วนั้น ภาพของท่านที่คุ้นตาคือ คุณยายห่าถิ่เกิ่วสวมงอบ ผ้าพันที่ไหล่และใบหน้าเต็บไปด้วยรอยตีนกาของผู้ที่ต้องผ่านชีวิตที่ลุ่มๆดอนๆมาตลอดแต่ตายังดีอยู่ ทั้งนี้แสดงให้เห็นกฎแห่งธรรมชาติในชีวิตของผู้คนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อได้ฟังท่านร้องก็เป็นการยืนยันในสิ่งที่กลับกันกับกฎแห่งธรรมชาตินั่นคือ ความเป็นอมตะของศิลปะการร้องเพลงเสิ่มหรือเพลงขอทานของศิลปินห่าถิ่เกิ่ว เนื้อร้องของเพลงขอทานเป็นกลอน เนื้อหาเป็นนิทานชาดกและเรื่องชีวิตประจำวันของคนทั่วไป

ศิลปินห่าถิ่เกิ่วมีชื่อจริงคือ ห่าถิ่นัม เกิดเมื่อปีค.ศ. ๑๙๒๑ ในครอบครัวที่ประดอบอาชีพร้องเพลงเสิ่มหรือเพลงขอทานมา ๓ ชั่วอายุคน ที่ อำเภออี๊เอียน จังหวัดนามดิ่ง ท่านเริ่มเข้าสู่ชีวิตการร้องเพลงเสิ่มตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ โดยร่วมกับสมาชิกในครอบครัวเร่ร่อนร้องเพลงเสิ่มตามตลาดชนบทเพื่อเลี้ยงชีพ ตลอดเกือบ ๑ ศตวรรษที่ผ่านมา ศิลปินห่าถิ่เกิ่วกับเครื่องดนตรีซออู้ได้ผูกพันกับศิลปะการร้องเพลงทำนองเสิ่ม ท่านไม่รู้หนังสือดังนั้นได้เรียนรู้เพลงเสิ่มจากปากต่อปาก และเพลงเสิ่มได้ซึมซับเข้าในจิตใจของท่านจนเป็นของส่วนตัว และเมื่อพูดคุยกับแขกที่มาเยี่ยมเยือนท่านมักจะอ่านบทกลอนใส่ทำนองเสิ่มที่มีสัมผัสได้อย่างดีเยี่ยมพร้อมใส่อารมขันเข้าไปด้วย เพลงเสิ่มหรือเพลงขอทานเป็นเพลงพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีมาตั้งแต่โบราณ เป็นศิลปะโดดเด่นแขนงหนึ่งในศิลปะดตรีพื้นเมืองของเวียดนาม แต่มีระยะหนึ่งเพลงเสิ่มถูกมองว่าเป็นเพลงของคนชั้นต่ำเพราะผูกพันกับภาพขอทานตาบอด ร้องเพลงขอความเมตตาสงสารจากผู้ฟังเพื่อแลกกับเงินหรือสิ่งของเพื่อยังชีวิตไปวันๆ  แต่บรรดนักวิจัยเพลงเสิ่มต่างมีเสียงพูดเดียวกันว่า เพลงเสิ่มผ่านการร้องของศิลปินห่าถิ่เกิ่วได้พัฒนาเป็นสิลปะชั้นยอดที่สามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์และความสวยงามของเพลงเสิ่มได้อย่างดีเยี่ยม  นักประพันธ์ดนตรี ทวายางเห็นว่า “ หากถือว่า การยืนยันความสามารถและอัจฉริยะของคนใดคนหนึ่งต้องผ่านการแข่งขันระดับโลกก็ถูกต้องส่วนหนึ่ง แต่สำหรับศิลปินห่าถิ่เกิ่วนั้น ไม่ได้ผ่านการแข่งขันใดๆแต่เพลงเสิ่มกับท่านยังสถิตอยู่ในใจของผู้คนผ่านระยะเวลาแห่งประวัติศาตร์ที่ยาวนาน ทั้งนี้สามารถยืนยันได้ว่าท่านเป็นอัจฉริยะบุคคลคนหนึ่งของเวียดนาม ศิลปินเกิ่วเป็นคนที่มีความสามารถอยู่ในตัว ท่านสามารถเล่นซออู้ ใช้กลับคู่ประกอบการร้องและแต่งเพลงได้ด้วยคนเดียวในสถานที่แตกต่างกันและได้รับการชื่นชมในทุกครั้ง

ศิลปินเพลงเสิ่มห่าถิ่เกิ่วสามารถสร้างแรงบันดาลใจต่อนักร้องรุ่นใหม่ที่หลงไหลในเพลงเสิ่ม โดยพวกเขาได้ไปถึงบ้านของท่านเพื่อฟังการร้องและขอเป็นลูกศิษย์ด้วย นายเลืองดิ่งหยุง ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “ เสิ่มแดง ” เกี่ยวกับชีวิตของท่านห่าถิ่เกิ่วเห็นว่า จากการพบปะกับท่านเกิ่วและฟังเพลงเสิ่มโดยท่านเกิ่วร้องนั้น นายหยุงเห็นว่า นี่เป็นคลังประวัติศาสตร์อันล้ำค่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของยุคหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างคนและชะตาชีวิตของคนผ่านเนื้อร้องและเสียงร้องที่มีลักษณะะแห่งปรัชญาอันลึกซึ้ง ผู้กำกับเลืองดิ่งหยุงกล่าว  “ เพลงเสิ่มเป็นดนตรีแขนงหนึ่งที่หายากที่ได้ผ่านระยะเวลาต่างๆทางประวัติศาสตร์และผูกพันกับชีวิตที่แสนยากลำบากของคุณห่าถิ่เกิ่วในเกือบ ๑ ศตวรรษที่ผ่านมา จากชีวิตของท่าน ผมได้เข้าใจประวัติศาสตร์ระยะหนึ่งของประเทศ เช่นในสมัยก่อนโน้น ผู้ร้องเพลงเสิ่มมีฐานะอย่างไร

ศิลปินเพลงเสิม ห่าถิ่เกิ่ว-ปรมาจารย์เพลงขอทานของเวียดนาม - ảnh 2
ท่านห่าถิ่เกิ่วกับลูกศิษย์

ตลอดระยะเวลาทุ่มเทชีวิตเพื่อเพลงเสิ่ม ศิลปินห่าถิ่เกิ่วได้รับรางวัลที่มีเกียรติหลายรางวัลได้แก่ หนังสือชมเชยจากสถานีวิทยุเวียดนาม รางวัลพิเศษ “ ศิลปินร้องเพลงทำนองแจ่ว จังหวัดนิงห์บิ่งห์ ”  รางวัล ศิลปินพื้นเมืองและศิลปินยอดเยี่ยมปี ๑๙๙๓และรางวัลด่าวเติ้นปี ๒๐๐๘ ซึ่งเป็นรางวัลเพื่อรับรู้ผู้ที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ศิลปะพื้นเมือง  ท่านได้จากพวกเราไปเมื่อวันที่ ๓ มีนาคมที่ผ่านมาทิ้งไว้ความอาลัยอาวรณ์ให้แก่ผู้ที่รักและหลงไหลศิลปะการร้องเพลงเสิ่มหรือเพลงขอทานเวียดนาม ./. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด