กลุ่มดงกิงโก๋หญากเล่นดนตรีพื้นเมืองแบบร่วมสมัย

(VOVWORLD) - ใน 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มดงกงโก๋หญากได้ทุ่มเทให้กับความหลงไหลในการแสดงดนตรีพื้นเมืองแบบร่วมสมัยผ่านการเล่นดนตรีจากเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ไผ่และพิณพื้นเมืองหลายชนิดเพื่อเล่าเรื่องต่างๆ เช่น “ดนตรีในย่านถนนโบราณ 36 สาย” แสดงศิลปะที่มีการผสมระหว่างดนตรีกับบทกวีเหงียนยู บทกวีเยอรมันหรือผสมระหว่างดนตรีพื้นเมืองของกรุงเก่าเว้กับเนื้อเพลงของนักดนตรีจิ่งกงเซิน
กลุ่มดงกิงโก๋หญากเล่นดนตรีพื้นเมืองแบบร่วมสมัย - ảnh 1 กลุ่มดงกิงโก๋หญากเล่นดนตรีพื้นเมืองแบบร่วมสมัย

เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2015 ที่ย่านวัฒนธรรม เลขที่ 50 ถนนด่าวยวีตื่อในถนนโบราณ 36 สายของกรุงฮานอย กลุ่มดงกิงโก๋หญากได้เปิดการแสดงศิลปะชุดแรกชื่อว่า “เรื่องดนตรีในย่านถนนโบราณ 36 สาย” ซึ่งศิลปินทำการขับร้องที่มีการประกอบของเครื่องดนตรีโดยไม่ใช้เครื่องขยายเสียง ซึ่งมีความไพเราะและลึกซึ้งเป็นอย่างมาก ศิลปินด่ามกวางมิงห์ หัวหน้าของกลุ่มเผยว่า “ในกลุ่มของเรามีศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เช่น ศิลปินประชาชนซวนแหวก ศิลปินประชาชนแทงหว่าย ศิลปินประชาชนมิงก๊ายและศิลปินยอดเยี่ยมทวี้เหงิ่น เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นศิลปินอาวุโสในด้านดนตรีพื้นเมืองเวียดนาม แม้เป็นกลุ่มเล็กๆแต่พวกเราก็เป็นมืออาชีพในด้านดนตรีพื้นเมือง ซึ่งสมาชิกทุกคนมีอุดมการณ์เหมือนกันคืออนุรักษ์เสียงดนตรีจากอดีตและพัฒนาให้ร่วมสมัย”

ในตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา กลุ่มดงกิงโก๋หญากได้จัดการแสดง “เรื่องดนตรีในย่านถนนโบราณ 36 สาย” รวม 13 ครั้ง โดยแสดงศิลปะพื้นเมืองต่างๆของเวียดนาม เช่น แจ่ว ต่วง การร้องเพลง “วัน” และบทกวีแบบร่วมสมัย ซึ่งการใส่จิตวิญญาณลงไปในการแสดง การร้องและการเล่นดนตรีได้สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ผู้ชม

ทางกลุ่มได้ทดลองเล่นดนตรีพื้นเมืองเวียดนามทั้งในเวียดนามและในต่างประเทศ โดยมีการจัดงาน “ราตรีดนตรี” ต่างๆ เช่น “เสียงเครื่องดนตรีไม้ไผ่ เสียงพิณ” “สาวเวียดนามร้องเพลงพื้นเมือง” นอกจากนี้ ยังมีการทดลองใช้เนื้อเพลงของนักดนตรีจิ่งกงเซินประกอบดนตรีพื้นเมืองของกรุงเก่าเว้ในรายการ “เพลงพื้นเมืองกรุงเก่าเว้” แสดงดนตรีพื้นเมืองประกอบบทกวีของนักกวีเหงียนยูของเวียดนามและนักกวี Jan Wagner และ Henric Heiner ของเยอรมนี

เมื่อปลายปี 2017 กลุ่มดงกิงโก๋หญากได้ร่วมมือกับวงดนตรีร่วมสมัยฮานอยจัดการแสดงคอนเสิร์ต “กระจกแห่งความทรงจำ” ที่สถาบันดนตรีแห่งชาติเวียดนาม โดยมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองต่างๆ เช่น “เสียงของหมู่บ้าน” และ“กาจู่”เป็นต้น นำโดยวาทยากรที่มีชื่อเสียง Jeff Von der Schmidt ซึ่งมีการผสานระหว่างเสียงของเครื่องดนตรีพื้นเมืองกับลีลาของเพลงพื้นเมืองและดนตรีร่วมสมัยเพื่อสร้างความเชื่อโยงระหว่างดนตรีเวียดนามกับเพลงตะวันตก ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติเนื่องจากได้สร้างความซาบซึ้งใจ คุณหวูเหญิดเติน สมาชิกกลุ่มดงกิงโก๋หญากกล่าวว่า “เราทำการวิจัยอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับดนตรีพื้นเมือง โดยเฉพาะตามเอกสารสมัยโบราณเพื่อจัดทำทฤษฎีเกี่ยวกับดนตรีพื้นเมืองในประวัติศาสตร์ นี่คือหน้าที่ที่ยาวนานและสำคัญ นอกจากนี้ เรายังจัดการแสดงพบปะสังสรรค์เพื่อช่วยให้คนรุ่นใหม่สานต่อดนตรีพื้นเมืองของเวียดนามและร้องเพลงโดยไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียง”

บรรดาศิลปินในกลุ่มถือว่า ความพยายามในตลอดหลายปีที่ผ่านมาโดยไม่แสวงหาผลกำไรนั้นทำไปเพื่อตอบสนองความหลงไหลของตนเอง แต่กิจกรรมเหล่านี้ได้ช่วยให้ผู้ชมเวียดนามเข้าถึงบทกวีและเพลงต่างๆของตะวันตกมากขึ้น เปิดแนวทางพัฒนาใหม่ให้แก่ดนตรีพื้นเมืองของประชาชาติและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ดนตรีพื้นเมืองเวียดนามในตลาดดนตรีปัจจุบัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด