การสะสมตะเกียงน้ำมันที่บอกเล่าเรื่องราวในวันวาน

(VOVWORLD) - ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามได้ไปเยี่ยมบ้านของนายเจิ่นแทงตุ่ง หนึ่งในนักสะสมตะเกียงน้ำมันในกรุงฮานอยเพื่อชมชุดตะเกียงน้ำมันเกือบร้อยอันที่เขาสะสมมานาน โดยเมื่อเข้าไปในห้องรับแขก ซึ่งอยู่ชั้น 2 สิ่งแรกที่เราได้เห็นคือตะเกียงน้ำมันหลายแบบหลายสีสันและหลายขนาด โดยเฉพาะมีตะเกียงน้ำมันที่มีความสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ
การสะสมตะเกียงน้ำมันที่บอกเล่าเรื่องราวในวันวาน - ảnh 1ชุดตะเกียงน้ำมันเกือบร้อยอันที่บ้านของ นายเจิ่นแทงตุ่ง หนึ่งในนักสะสมตะเกียงน้ำมันในกรุงฮานอย

นาย ตุ่งบอกว่า ผู้ที่สะสมตะเกียงน้ำมันในเวียดนามมีไม่มาก ดังนั้นเขาจึงต้องไปค้นหาตะเกียงน้ำมันจากหลายที่กว่าจะได้ตะเกียงน้ำมันไว้ในครอบครองเกือบ 80 อัน“ผมเริ่มสะสมตะเกียงน้ำมันตั้งแต่ปี 2010 คนที่สะสมตะเกียงน้ำมันในเวียดนามมีน้อยมากเพราะต้องเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะและต้องรู้จักวิธีประกอบตะเกียง ก่อนหน้านี้ ผมมักจะสั่งซื้อตะเกียงน้ำมันผ่านการประมูลทางเว็บไซต์จากต่างประเทศและฝากเพื่อนเอากลับมาให้”

นายตุ่งเผยว่า สำหรับนักสะสมอาชีพนั้นจะต้องรู้จักวิธีการประเมินประวัติความเป็นมาและแบบของตะเกียงน้ำมันที่ต้องการซื้อ“ตะเกียงน้ำมันได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา มีศิลปะแบบยุโรป เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งปราสาทของตระกูลหรือครอบครัวที่มีอำนาจ โดยมีตะเกียงน้ำมันที่ทำจากหิน และคริสตัล สำหรับตะเกียงน้ำมันที่ทำจากหินนั้น เวลายิ่งนานก็ยิ่งแข็งแล้วขึ้นสีเป็นธรรมชาติและสะท้อนร่องรอยของกาลเวลาที่ไม่อาจลอกแบบทำปลอมได้ ตะเกียงน้ำมันนี้ต้องทำด้วยมือทุกขั้นตอน มันเป็นสิ่งของที่แตกง่าย ดังนั้นเมื่อสามารถรักษาได้ คงอยู่กับกาลเวลาก็ถือว่ามีค่ามาก”

สิ่งที่ทำให้นักสะสมต้องหลงไหลทุ่มเทกับงานนี้คือการที่สามารถนำชิ้นส่วนของตะเกียงน้ำมันต่างๆมาประกอบเข้ากันใหม่ให้เป็นตะเกียงน้ำมันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งก็เหมือนการประกอบชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์ และยิ่งใครที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะ บวกกับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ต่างๆก็ยิ่งทำให้ได้ตะเกียงน้ำมันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่ซ้ำใคร

ปัจจุบัน จากการที่ไฟฟ้าและหลอดไฟเข้าถึงทุกบ้านทำให้ตะเกียงน้ำมันลดบทบาทลงจนกลายเป็นของหายาก นาย เจิ่นแทงตุ่งได้เผยว่า เขาได้พยายามตามหาตะเกียงน้ำมันที่ตนชอบเพราะมันเป็นของที่มีความผูกพันกับความทรงจำในวัยเด็กในยุครัฐอุปถัมภ์ที่เต็มไปด้วยความลำบากที่เขาเคยผ่าน“ผมเกิดและเติบโตในยุครัฐอุปถัมภ์ โดยได้ใช้ตะเกียงน้ำมันหรือแม้กระทั่งไส้ตะเกียงที่ถูกวางในจานที่มีน้ำมันเพื่อให้แสงสว่างแทนไฟฟ้า ซึ่งนอกจากมีความงามแบบยุโรป ตะเกียงน้ำมันยังทำให้ผมคิดถึงความทรงจำในวัยเด็กที่ชีวิตมีความลำบากมาก โดยต้องใช้ตะเกียงน้ำมันทั้งในช่วงสงครามและในยามสันติ รวมทั้งช่วงที่ต้องอพยพไปยังเขตปลอดภัยและในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ผมก็ใช้ตะเกียงน้ำมัน”

การสะสมตะเกียงน้ำมันที่บอกเล่าเรื่องราวในวันวาน - ảnh 2 นอกจากใช้ตกแต่งบ้านและตอบสนองความปรารถนาของผู้สะสม การใช้ตะเกียงน้ำมันยังส่งผลดีต่อสุขภาพ 

นอกจากใช้ตกแต่งบ้านและตอบสนองความปรารถนาของผู้สะสม การใช้ตะเกียงน้ำมันยังส่งผลดีต่อสุขภาพ นาย เหงวียนดังฮวี นักสะสมตะเกียงน้ำมันอีกคนได้เผยว่า“ในที่อยู่อาศัยหรือสถานที่คับแคบ มักจะมีไอออนบวก ซึ่งเป็นอะตอมที่มีประจุไฟฟ้าบวกที่มีอยู่ในฝุ่น ลอยอยู่ในอากาศและอาจผสมกับไอออนลบในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งการจุดไฟตะเกียงน้ำมันจะปล่อยไอออนลบเพื่อสร้างความสมดุลกับไอออนบวก ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกายของมนุษย์”

ท่ามกลางการพัฒนาของสังคมสมัยใหม่ ตะเกียงน้ำมันไม่ได้ถูกใช้จุดให้แสงสว่างเหมือนในอดีต แต่ได้กลายเป็นสิ่งที่บอกเล่าถึงวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นของมนุษย์ในสมัยต่างๆ ดังนั้น สำหรับนักสะสมของเก่าทุกคน การเก็บสะสมตะเกียงน้ำมันก็เป็นเหมือนการเก็บรักษาความทรงจำในวันวานเอาไว้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด