50 ปีแห่งการปฏิบัติตามพินัยกรรม-คุณค่าของเอกสารทางประวัติศาสตร์

(VOVWORLD) - ปี 2019 เป็นช่วงเวลาครบรอบ 50 ปีที่เวียดนามปฏิบัติตามพินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า มีความหมายในทางทฤษฎีและการปฏิบัติอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับภารกิจการปฏิวัติที่รุ่งโรจน์ของพรรคและประชาชาติเวียดนาม นั่นคือการวางแผนทางทฤษฎีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาในอนาคตของประเทศหลังจากการปฏิวัติประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายหลัง 50 ปีปฏิบัติตามพินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์ ประชาชาติเวียดนามได้ประสบความสำเร็จที่สำคัญและน่าภาคภูมิใจ
50 ปีแห่งการปฏิบัติตามพินัยกรรม-คุณค่าของเอกสารทางประวัติศาสตร์ - ảnh 1(Photo: Vietnamplus) 

ประธานโฮจิมินห์ได้เขียนประโยคแรกในพินัยกรรมฉบับนี้เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมปี 1965 โดยสรุปประสบการณ์การนำปฏิวัติและแนวทางการพัฒนาของประชาชาติ อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกภาพของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ของวีรชนปลดปล่อยประชาชาติเวียดนามและนักวัฒธรรมที่ยอดเยี่ยม โฮจิมินห์

โอวาทที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์และยุคใหม่

โอวาทและความปรารถนาของประธานโฮจิมินห์ในพินัยกรรมคือแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรคที่กุมอำนาจที่บริสุทธิ์และเข้มแข็ง รองศาสตราจารย์ ดร. หยวาน ถิ ชิ้น หัวหน้าสาขาวิชาแนวคิดโฮจิมินห์จากสถาบันการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้เผยว่า ในพินัยกรรมแห่งประวัติศาสตร์ของประธานโฮจิมินห์ โอวาทแรกคือการกล่าวถึงพรรค นั่นคือปัญหาที่ท่านมีความห่วงใยในตลอดชีวิตการเคลื่อนไหวปฏิวัติ เพราะพรรคคือปัจจัยสำคัญที่ชี้ขาดต่อทุกชัยชนะของการปฏิวัติ

“ด้วยตัวอย่างของท่าน ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ชนชั้นและสหายในพรรคคือปัจจัยสำคัญเพื่อสร้างความสามัคคีภายในพรรค ท่านสั่งให้ “พรรคต้องมีความสัมพันธ์ ความรักใคร่ระหว่างบรรดาสหาย” ในพินัยกรรม ประธานโฮจิมินห์ได้ย้ำถึงคุณธรรมเมื่อพรรคกลายเป็นพรรคกุมอำนาจ” พรรคกุมอำนาจคือการเปลี่ยนแปลงสำคัญในองค์กรพรรค พรรคกุมอำนาจมีหน้าที่เป็นผู้นำชนชั้นและประชาชาติ ดำเนินภารกิจการสร้างสรรค์สังคมใหม่และสังคมนิยมให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งเพื่อเสร็จสิ้นหน้าที่นี้ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต้องมีคุณธรรมและอารยธรรม”

สำหรับแนวคิดที่โดดเด่นอื่นๆในพินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์คือแนวคิดให้ความสำคัญต่อบทบาทของประชาชนและมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประชาชน พินัยกรรมกล่าวถึงนโยบายและแนวทางช่วยเหลือทหารทุพพลภาพ ทหารพลีชีพเพื่อชาติ พ่อแม่ ภรรยาและลูกของพวกเขา สำหรับสตรี เยาวชน กรรมกรและประชาชนในเขตที่ราบลุ่มและเขตเขา ต้องมีแผนการที่ดีเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเพื่อยกระดับชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการศึกษา งานด้านสาธารณสุขและสุขอนามัย ศาสตราจารย์ ดร. หว่างชี้บ๋าว ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและอดีตสมาชิกของสภาทฤษฎีส่วนกลางได้แสดงความเห็นว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลชีวิตประชาชน เพราะนี่คือพื้นฐานทางวัตถุเพื่อมุ่งสู่การให้การศึกษาแนวคิดด้านการเมือง 2คือต้องทำตามแนวทางของท่าน โฮจิมินห์ ดั่งเช่นประธานโฮจิมินห์ได้พูดว่า ไม่เพียงแต่ดูแลเอาใจใส่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเท่านั้น หากต้องดูแลเรื่องความรู้และสิทธิมนุษยชนอีกด้วย รับใช้และปฏิบัติเพื่อประชาชนก็จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นปฏิบัติตาม ดังนั้น ลุงโฮ จึงสรุปว่า เคล็ดลับความสำเร็จของการปฏิวัติคือถ้าทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและสนับสนุน ประชาชนก็จะปกป้อง ดังนั้นต้องใช้พลังที่เข้มแข็งจากประชาชน เพราะเป็นรากฐานที่มั่นคงของการปฏิวัติ”

สำหรับลัทธิสังคมนิยมและการเปลี่ยนแปลงใหม่ ในพินัยกรรม ประธานโฮจิมินห์ ได้ย้ำถึงทัศนะเกี่ยวกับสังคมนิยม “สันติภาพ เอกภาพ เอกราช ประชาธิปไตยและความเจริญเข้มแข็ม มีส่วนร่วมต่อภารกิจการปฏิวัติของโลก” เมื่อกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ ท่านได้แสดงความเห็นว่า เป็นการต่อสู้เพื่อต่อต้านอะไรที่เก่าแก่เสียหายแล้วเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆที่สดใส และนี่คือการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่จึงต้องรณรงค์ให้การศึกษาแก่ปวงชนเพื่ออาศัยพลังที่ยิ่งใหญ่ของประชาชน

50 ปีแห่งการปฏิบัติตามพินัยกรรม-คุณค่าของเอกสารทางประวัติศาสตร์ - ảnh 2พินัยกรรมของประธาน โฮจิมินห์ (Photo: Vietnamplus) 

ปฏิบัติพินัยกรรมของท่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป

จากการปฏิบัติพินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์ ในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ผลักดันการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคและพัฒนาแนวทางการปฏิวัติ รักษาบทบาทเป็นพรรคกุมอำนาจ ควบคู่กันนั้น พรรคและรัฐได้ประกาศใช้นโยบายสังคมเพื่อผลประโยชน์ของคนเวียดนาม ยกระดับชีวิตทั้งด้านวัตถุและจิตใจให้แก่ประชาชน ถือประชาชนคือเป้าหมาย พลังขับเคลื่อนและเป็นเจ้าของความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ นำประชาชนเวียดนามปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ บรรลุผลงานที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรม ความมั่นคง กลาโหมและการต่างประเทศ

พินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์คือโอวาทของผู้นำที่ปรีชาสามารถของประชาชาติเวียดนาม คือการสรุปสถานการณ์ที่เป็นจริง กำหนดแนวทางการพัฒนาในอนาคตและเป็นหนังสือคู่มือของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในกระบวนการมุ่งสู่อนาคต นี่คือหลักฐานที่เข้มแข็งที่ยืนยันถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ความหมายทางทฤษฎีและการปฏิบัติในสถานการณ์ที่เป็นจริง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด