กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียผ่านช่องทางการทูตรัฐสภา

(VOVWORLD) - เมื่อเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายน นาง เหงวียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางถึงกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลียเพื่อเริ่มการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของรัฐสภาและรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามให้ความสำคัญของต่อการที่ออสเตรเลียตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อมุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศ
กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียผ่านช่องทางการทูตรัฐสภา - ảnh 1 นาง เหงวียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม (Photo: VNA)

การเยือนออสเตรเลียครั้งนี้มีความหมายสำคัญต่อการผลักดันความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างผู้นำรัฐสภาทั้ง 2 ประเทศ กระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสภาแห่งชาติเวียดนามกับวุฒิสภาและสภาล่างออสเตรเลีย รวมทั้งความร่วมมือในด้านต่างๆที่ทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพและจุดแข็ง โดยเฉพาะเศรษฐกิจ การค้า ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การเกษตร การศึกษา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน

 ผลความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ

ภายหลังการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในตลอดเกือบ 45 ปีที่ผ่านมา เวียดนามและออสเตรเลียได้กลายเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญทั้งในระดับทวิภาคีและในฟอรั่มต่างๆในภูมิภาคและโลก โดยความสัมพันธ์ทวิภาคีได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว จริงจังและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายยกระดับความสัมพันธ์ให้เป็นหุ้นส่วนในทุกด้านเมื่อปี 2009 และลงนามในแถลงการณ์เกี่ยวกับการผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านเมื่อเดือนมีนาคมปี 2015 ล่าสุดนี้ ในกรอบการประชุมสัปดาห์ผู้นำเอเปก 2017 ณ นครดานัง  ประเทศเวียดนาม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนาย มัลคอม เทิร์นบุล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้เจรจากันและเห็นพ้องที่จะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยเร็ว ปัจจุบัน กระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามและออสเตรเลียกำลังหารือเพื่อมุ่งสู่การลงนามเอกสารเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด

สำหรับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้า มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่าง 2 ประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเวลาที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 2016 ได้บรรลุ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นหลายเท่าเมื่อเทียบกับปี 1990 ซึ่งอยู่ที่32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 7 ของเวียดนาม ส่วนโครงการลงทุนเอฟดีไอของออสเตรเลียที่เน้นในด้านการเกษตร การก่อสร้าง การบริการ การศึกษา อุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร ป่าไม้และสัตว์นํ้าในเวียดนามได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เวียดนามได้เสนอให้ออสเตรเลียขยายการลงทุนและประกอบธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต พลังงาน การทำเหมืองแร่ โครงสร้างพื้นฐาน การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร

 นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่จัดสรรค์เงินโอดีเอในรูปให้เปล่าแก่เวียดนามมากที่สุด โดยในช่วงปี 2010 – 2015 อยู่ที่กว่า 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกรอบการประชุมสัปดาห์ผู้นำเอเปก ณ นครดานังเมื่อเร็วๆนี้ นาง จูลี บิชอป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียได้ยืนยันว่า จะจัดสรรค์เงินโอดีเอเพื่อช่วยเหลือเวียดนามรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาแหล่งบุคลากร การเสริมสร้างศักยภาพของเศรษฐกิจภาคเอกชนและความเสมอภาคทางเพศ “พวกเราไม่เพียงแต่ให้ความร่วมมือด้านความมั่นคง การค้าและการลงทุนเท่านั้น หากยังให้ความสนใจต่อการคํ้าประกันการพัฒนาของคนเวียดนามอีกด้วย  ดิฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสมานครดานังและประกาศโครงการช่วยเหลือจังหวัดเซินลาและจังหวัดลาวกายในเขตตะวันตกเฉียงเหนือ ประเทศเวียดนามเพื่อคํ้าประกันบทบาทและสถานะของสตรีในครอบครัว สังคมและการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางของรัฐบาลเวียดนาม”

กระชับความร่วมมือระหว่างสภาแห่งชาติเวียดนามกับรัฐสภาออสเตรเลีย

ควบคู่กับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างดีงาม ความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสภาแห่งชาติเวียดนามกับรัฐสภาออสเตรเลียได้พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่ผ่านมา สภาแห่งชาติเวียดนามและสภาล่างออสเตรเลียได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในโอกาสการเยือนออสเตรเลียของท่าน เหงวียนฟู้จ่อง ในฐานะประธานสภาแห่งชาติเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคมปี 2008  ต่อจากนั้น ในการเยือนเวียดนามของนาง Anna Burke ประธานสภาล่างออสเตรเลียเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2013  สภาแห่งชาติเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือระยะใหม่กับวุฒิสภาและสภาล่างออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่และเป็นพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่การกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้ง 2 ประเทศให้นับวันพัฒนาตามส่วนลึก มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ทั้ง 2 ฝ่ายได้จัดตั้งกลุ่มส.ส.มิตรภาพในแต่ละประเทศเพื่อผลักดันการพบปะสังสรรค์และการแลกเปลี่ยนเพื่อมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการประชาสัมพันธ์งานด้านการต่างประเทศและความเข้าใจกันระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ กระชับความสัมพันธ์ในทุกด้านผ่านช่องทางการทูตรัฐสภา นอกจากนี้ รัฐสภาทั้ง 2 ประเทศให้การสนับสนุนกันในฟอรั่มรัฐสภาพหุภาคีที่ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นสมาชิก เช่น สหภาพรัฐสภาโลก ฟอรั่มความร่วมมือรัฐสภาเอเชีย-แปซิฟิกและสภาสหภาพรัฐสภาอาเซียน เป็นต้น

เวียดนามและออสเตรเลียได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปี 1973 ภายหลังเกือบ 45 ปีแห่งการพัฒนา ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศได้ประสบผลที่น่ายินดี ซึ่งการเยือนออสเตรเลียของนาง เหงวียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของเวียดนามต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับออสเตรเลีย อีกทั้งยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และมีส่วนร่วมกระชับความร่วมมือในด้านที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีศักยภาพ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด