กระชับความสัมพันธ์เวียดนาม-โมซัมบิก

(VOVWORLD) - วันที่ 31 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐโมซัมบิก คาร์ลอ อะกอสติโญ่ โด โรซาริโอ ได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีที่ยาวนานเวียดนาม-โมซัมบิกให้แน่นแฟ้นมากขึ้น อีกทั้งหารือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนด้านที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจ
กระชับความสัมพันธ์เวียดนาม-โมซัมบิก - ảnh 1เจ้าหน้าที่ของเวียดเทลกับเจ้าหน้าที่ในโมซัมบิก (Viettel) 

โมซัมบิกตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกาได้สถานปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนปี 1975 ซึ่งตรงกับวันที่โมซัมบิกประกาศเอกราช ทั้งสองประเทศเคยสนับสนุนกันในภารกิจการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชในอดีต และปัจจุบัน ประชาชนทั้งสองประเทศได้ช่วยเหลือกันในการสร้างสรรค์และพัฒนาเศรษฐกิจ

หุ้นส่วนสำคัญของเวียดนามในแอฟริกา

โมซัมบิกคือหุ้นส่วนสำคัญของเวียดนามในแอฟริกา มีความสัมพันธ์ในทุกด้านกับเวียดนามผ่านความร่วมมือในระดับพรรค รัฐและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและพรรคแนวร่วมเพื่อการปลดปล่อยโมซัมบิกหรือ FRELIMO  ได้ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือในด้านการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และวิจัยวิทยาศาสตร์ เวียดนามได้ให้การช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ล้ำค่าในการสร้างสรรค์ บริหาร ยกระดับคุณภาพเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆและเจ้าหน้าที่บริหาร

ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเวียดนามกับโมซัมบิกในหลายปีที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก โดยตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปี 2010 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 13.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็น 45.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2016 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้บรรลุกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โมซัมบิกอยู่อันดับที่ 11 จากจำนวนทั้งหมด 72 ประเทศและดินแดนที่เวียดนามเข้าไปลงทุน ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทโทรคมนาคมกองทัพเวียดเทลและเครือบริษัท Hapro กำลังลงทุนในโมซัมบิกในด้านโทรคมนาคมและการค้า โดยบริษัท Movitel เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเวียดเทลกับเอสพีไอ มียอดเงินลงทุนเกือบ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเวียดเทลถือหุ้นร้อยละ 70  บริษัทMovitel ของกลุ่มบริษัทโทรคมนาคมกองทัพเวียดเทลในโมซัมบิกคือโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ เพราะช่วยปฏิวัติการสื่อสารในโมซัมบิก เครือข่ายโทรคมนาคมของบริษัท Movitel เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2012 โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการและเครือข่ายใหญ่เป็นอันดับ 2 ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของโมซัมบิก

ยังมีศักยภาพมากมายเพื่อพัฒนา

กระบวนการปฏิรูปเศรษฐกิจของโมซัมบิกกำลังเปิดโอกาสร่วมมือลงทุนให้แก่เวียดนามในด้านการเกษตร สัตว์น้ำ ทรัพยากรแร่ธาตุ การก่อสร้าง พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน โดยการเกษตรคือหนึ่งในเนื้อหาร่วมมือที่สำคัญที่สุดที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจผลักดันอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงระดับรัฐบาลเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเกษตรเมื่อปี 2008 โดยกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามให้การช่วยเหลือโมซัมบิกในการปฏิบัติโครงการ “ร่วมมือวิจัยพัฒนาพืชอาหารในโมซัมบิกในช่วงปี 2013-2017” ซึ่งภายหลัง 3 ปีที่ปฏิบัติ โครงการได้บรรลุผลงานในเบื้องต้นในการผลักดันความสามารถด้านการวิจัย พัฒนาพืชอาหารและการเกษตรให้มีความทันสมัย โครงการได้วิจัยพันธุ์ข้าวคุณภาพดี 10 สายพันธุ์ ซึ่งสามารถเพิ่มผลผลิตได้ 4-5เท่าและช่วยเหลือโมซัมบิกแก้ไขปัญหาความปลอดภัยด้านอาหาร

โมซัมบิกมีพื้นที่กว้างใหญ่และมีความได้เปรียบเพื่อพัฒนาพืชอุตสาหกรรม เช่นมะพร้าว ถั่วเหลืองและอ้อย เป็นต้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่เวียดนามกำลังมีความต้องการในระดับสูง ในขณะเดียวกัน เวียดนามมีพันธุ์ข้าว ข้าวโพดและมันเทศที่สามารถแลกเปลี่ยนกับโมซัมบิกเพื่อผลักดันการผลิต นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายยังมีโครงการร่วมมือหลายโครงการในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และฝึกอบรมเทคโนโลยีพัฒนการเกษตรและสัตว์น้ำ ทั้งสองประเทศยังร่วมมือด้านการค้า การลงทุน สาธารณสุข การศึกษาและการแลกเปลี่ยนนักศึกษาทุนรัฐบาล

แม้ความสัมพันธ์ด้านการเมืองที่ดีงามจะได้รับการเสริมสร้างในอดีตและปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง แต่ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้ายังไม่ตอบสนองศักยภาพและความรอคอยของประชาชนทั้งสองประเทศ ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองฝ่ายจะผลักดันความร่วมมือด้านโทรคมนาคม สาธารณสุข การศึกษา การทำเหมืองแร่ต่อไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการเวียดนามลงทุนและร่วมมือด้านการเกษตรในโมซัมบิก เพื่อสร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายมีความสมบูรณ์มากขึ้น เวียดนามและโมซัมบิกได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือในด้านการสนับสนุน การคุ้มครองการลงทุน การค้า การเกษตร การศึกษา สาธารณสุข การยกเว้นวีซาให้แก่ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางการทูตและหนังสือเดินทางข้าราชการ ข้อตกลงฉบับต่างๆดังกล่าวคือพื้นฐานที่สะดวกในการผลักดันความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

การเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีโมซัมบิก คาร์ลอส อะกอสติโญ่ โด โรซาริโอ ครั้งนี้จะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่สัมพันธไมตรีที่ยาวนานเวียดนาม-โมซัมบิกให้พัฒนาต่อไปและผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด