เศรษฐกิจเวียดนามใน9เดือนที่ผ่านมามีการขยายตัวค่อนข้างดีในแทบทุกด้านตามแนวทางที่ยั่งยืนในเชิงลึก โดยหน่วยงานการประดิษฐ์คิดค้นได้รับการขยายต่อไป การผลิตเกษตรเพิ่มสูงขึ้น ภาคการบริการมีเสถียรภาพ แนวโน้มการอุปโภคบริโภคภายในประเทศมีความสม่ำเสมอ การลง ทุนเอฟดีไอและการลงทุนในประเทศมีการขยายตัว

ดอกผลที่เกิดจากการชี้นำอย่างจริงจัง

ตัวเลขการขยายตัวของ9เดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ8ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่แปลกเพราะตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ เวียดนามสามารถธำรงเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคได้ดีตามแนวทางที่มั่นคง บรรยากาศการลงทุนได้รับการปรับปรุงอย่างเป็นรูปธรรมและมีลักษณะแตกต่างพิเศษ นายเหงวียนดิ่งกูง หัวหน้าสถาบันวิจัยและบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางประเมินว่า“สองปัจจัยหลักดังกล่าวเป็นแรงกระตุ้นเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่น่ายินดี และจะทำให้การขยายตัวมีเสถียรภาพและมีความมั่นคง”

ในหลักพื้นฐานการพัฒนาของเศรษฐกิจสามารถสังเกตุเห็นประสิทธิภาพที่ชัดเจนจากการปฏิรูปเศรษฐกิจภาคการเกษตร โดยในรอบสองปีมานี้ตัวเลขการขยายตัวอยู่ที่เกือบร้อยละ4 มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านระดับการพัฒนาและองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดที่สุดจากผลการส่งออกสินค้าการเกษตรของเวียดนาม ในด้านการปรับเปลี่ยนโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐก็มีความคืบหน้าด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารและองค์ประกอบของการลงทุน โดยการแปรรูปสถานประกอบการภาครัฐเป็นหุ้นส่วนโดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดใหญ่ก็มีผลออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน นอกจากนั้นการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการประดิษฐ์ก็เป็นจุดเด่นในภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจ นายเหงวียนดิ่งกูง หัวหน้าสถาบันวิจัยและบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางมีความเห็นว่า“เราสามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการขยายตัวที่ไม่พึ่งแต่การใช้ประโยชน์จากแร่ธาตุและขยายขอบเขตการสนับสนุนด้านการเงินเป็นหลักหากเปลี่ยนมาเป็นการอาศัยการเพิ่มอุปทานของเศรษฐกิจ การเพิ่มผลผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แหล่งพลังต่าง”

ทางเลือกที่ถูกต้อง การบริหารที่คล่องตัว

ส่วนนายเหงวียนแองเยือง หัวหน้าคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของสถาบันวิจัยการบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางมีความเห็นว่า ใน9เดือนที่ผ่านมา การใช้ความสร้างสรรค์และความคล่องตัวในการบริหารนโยบายของเวียดนามเริ่มมีผลในเบื้องต้นโดยเวียดนามยังยืนหยัดความสนใจอันดับแรกคือธำรงเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างชาติเพื่อให้พวกเขาเดินหน้าดำเนินธุรกิจต่อไปและการลงทุนจากภาคเอกชนยังเพิ่มขึ้น17%ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขการขยายตัวที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจภาคต่างๆและยังเพิ่มขึ้นรวดเร็วมากกว่าการลงทุนสาธารณะและการลงทุนจากต่างประเทศ อันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการเมื่อได้รับโอกาสและความไว้วางใจ“ที่สำคัญคือบรรยากาศการประกอบธุรกิจมีเสถียรภาพและบทบาทของธนาคารชาติในการปรับอัตราการเเลกเปลี่ยนเงินตราอย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว เพราะสิ่งที่ต้องให้ความสนใจก่อนการผลักดันการขยายตัวคือการควบคุมภาวะเงินเฟ้อและอัตราการเเลกเปลี่ยน นอกจากนั้นผลที่ออกมายังเกิดจากการประสานอย่างเหมาะสมระหว่างนโยบายสร้างบรรยากาศ ระดับมหภาคที่มีเสถียรภาพ จำกัดผลกระทบจากภายนอกและนโยบายที่กระตุ้นการแข่งขันระหว่างสถานประกอบการ ลดปัญหาอุปสรรคเพื่อเปิดโอกาสการขยายตัวให้แก่ภาคเศรษฐกิจที่มีความอ่อนไหว”

ทั้งนี้ช่วงเวลา3เดือนที่เหลือนั้นจึงมีบทบาทสำคัญต่อผลงานของปี2018 โดยความท้าทายจากทั้งสถานการณ์ภายในประเทศและต่างประเทศยังมีอีกมาก ดังนั้นเวียดนามต้องเป็นฝ่ายรับโอกาสและใช้โอกาสให้เต็มที่เพื่อพัฒนาโดยผลงานจาก9เดือนที่ผ่านมาจะเป็นแรงกระตุ้นเพื่อให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้.