นิมิตหมายใหม่ในความสัมพันธ์เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์

(VOVWORLD) -นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ มาร์ค รุตต์ได้เสร็จสิ้นการเยือนเวียดนามตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกด้วยผลสำเร็จอย่างงดงามและมีความหมายสำคัญต่อทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนในทุกด้าน ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่จะเปิดระยะแห่งความร่วมมือใหม่ที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมมากขึ้นระหว่างเวียดนามกับเนเธอร์แลนด์

นิมิตหมายใหม่ในความสัมพันธ์เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ - ảnh 1 นายกรัฐมนตรีเวียดนามให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์

เวียดนามและเนเธอร์แลนด์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี1973 ซึ่งในหลายปีมานี้ เนเธอร์แลนด์ได้ถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆและนโยบายผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามได้รับการสนับสนุนและเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในวงการการเมืองและชมรมผู้ประกอบการเนเธอร์แลนด์ ซึ่งอาจกล่าวยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เป็นแบบอย่างแห่งความสัมพันธ์ที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพระหว่างเวียดนามกับประเทศยุโรป

พื้นฐานที่ดีเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี

การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์แม้จะมีขึ้นภายในเวลา1วันแต่ก็มีกิจกรรมต่างๆอย่างหลากหลาย โดยในการพบปะหารือกับบรรดาผู้นำเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันถึงความไว้วางใจทางการเมืองที่ช่วยสร้างพื้นฐานเพื่อนำความสัมพันธ์ทวิภาคีเวียดนาม-เนเธอร์แลนด์เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการบริหารแหล่งน้ำ การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งนับเป็นกลไกความร่วมมือที่มีประสิทธิผลและจะยังคงเป็นเสาหลักสำคัญในความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านเวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ในเวลาข้างหน้า

ทั้งเวียดนามและเนเธอร์แลนด์ต่างมีความคล้ายคลึงกันในการรับมือกับความท้าทายต่างๆเกี่ยวกับการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยปัญหาน้ำทะเลซึมและอุปสรรคในการบริหารและใช้แหล่งน้ำอย่างมีประสิทธิภาพได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของทั้งสองประเทศ ซึ่งเนเธอร์แลนด์เป็นหุ้นส่วนสำคัญของเวียดนามในด้านนี้และการเยือนเวียดนามครั้งนี้ก็เป็นโอกาสให้เนเธอร์แลนด์สนับสนุนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเวียดนาม

นอกจากนี้ในกรอบการเยือนทั้งสองฝ่ายยังได้แปรความร่วมมือในหลายด้านให้เป็นรูปธรรมผ่านการลงนามข้อตกลงร่วมมือหลายฉบับในด้านการพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ขยายผลความร่วมมือด้านการเกษตร ส่งเสริมโครงการร่วมมือบนพื้นฐานจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายด้านปศุสัตว์ การบริหารควบคุมความปลอดภัยด้านอาหาร การเกษตรอัจฉริยะ เป็นต้น

เปิดยุคใหม่แห่งความร่วมมือทวิภาคี

พื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดีงามและความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในเวลาที่ผ่านมาคือปัจจัยสำคัญเพื่อให้เวียดนามและเนเธอร์แลนด์ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ความสัมพันธ์นั้นพัฒนาอย่างเข้มแข็งในด้านความร่วมมือที่กำลังมีอยู่รวมทั้งขยายผลไปยังด้านที่มีศักยภาพอื่นๆ ในการแถลงข่าวร่วมของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศเมื่อวันที่9เมษายน นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ได้ย้ำว่าทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน เช่นมีสถานะทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญของทั้งสองทวีปและต่างก็มีพื้นที่ที่เป็นเขตที่ราบลุ่ม เป็นประเทศที่มีการเกษตรพัฒนาอย่างเข้มแข็งและมีบทบาทเป็นแกนหลักในภาคการส่งออก ซึ่งนับเป็นพื้นฐานร่วมในความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายและนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทั้งสองประเทศตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน 

ทั้งนี้การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์จึงถือเป็นเหตุการณ์สำคัญสร้างนิมิตหมายแห่งการพัฒนาใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตต์เลือกเวียดนามเป็นประเทศเดียวที่เดินทางไปเยือนพร้อมคณะผู้แทนกระทรวง กลุ่มบริษัทใหญ่และผู้ประกอบการชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ได้สะท้อนให้เห็นนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของรัฐบาลประเทศนี้ที่ถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนอันดับต้นๆในภูมิภาค การเยือนนี้ยิ่งมีความหมายมากขึ้นเพราะมีขึ้นในโอกาสรำลึก46ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และคำพูดของนายกรัฐมนตรีมาร์ครุตต์ที่กล่าวกับนายกรัฐมนตรีเวียดนามพร้อมสื่อมวลชนก่อนอำลาเวียดนามว่า “ประชาชนเวียดนามมีเนเธอร์แลนด์ที่เป็นมิตรในยุโรป” ได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ไกล้ชิดพร้อมความไว้วางใจทางการเมืองที่เนเธอร์แลนด์สงวนให้แก่เวียดนาม อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่นับวันดีงามยิ่งขึ้นในระยะใหม่ระหว่างสองประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด