ประเทศฟิลิปปินส์ จุดร้อนพร้อมภัยคุกคามจากการขยายการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส
Anh Huyen- VOV5 -  
(VOVWORLD) -หลังเกิดการปะทะระหว่างหน่วยรักษาความมั่นคงรัฐบาลกับกลุ่มกบฎ เมื่อวันที่24พฤษภาคม เมืองมาราวี เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นเมืองแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกคุกคามจากกองกำลังที่ภักดีต่อกลุ่มไอเอส ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีชาวมุสลิมคิดเป็นร้อยละ15ของจำนวนชาวมุสลิมทั่วโลกรวม1.57พันล้านคน ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความวิตกกังวลว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจกลายเป็นเป้าหมายในการรับสมัครนักรบเข้าร่วมกลุ่มไอเอส
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต (Photo: EPA) |
การปะทะได้เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่23พฤษภาคมหลังจากที่กองทัพฟิลิปปินส์บุกโจมตีใส่สถานที่กบดานของนาย Isnilon Hapilon แกนนำของกลุ่มก่อการร้ายAbu Sayyaf โดยนักรบกว่า100คนได้ทำการตอบโต้การโจมตีของกองทัพฟิลิปปินส์ พร้อมทั้ง ขอกำลังเสริมจากกลุ่มกบฏอื่นๆ ภายหลังการปะทะเป็นเวลาหลายชั่วโมง กลุ่มกบฏMauteก็สามารถยึดอำนาจการควบคุมเมืองมาราวี จังหวัด Lanao del Surที่มีประชากร2แสนคนบนเกาะมินดาเนา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางทิศใต้ประมาณ830กิโลเมตรและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เตได้ประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ดังกล่าว
กลุ่มก่อการค้าชูธงกลุ่มไอเอสเพื่อแสดงความแข็งแกร่ง
กลุ่มMauteเป็น1ใน4กลุ่มกบฏหัวรุนแรงในประเทศฟิลิปปินส์ที่พยายามขยายการเคลื่อนไหวและเปิดการโจมตีหลายครั้งเมื่อเร็วๆนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อต้นปีนี้ กลุ่มMauteและกลุ่มกบฏอื่นๆ รวมทั้ง องค์การก่อการร้าย Abu Sayyaf ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มญิฮาดที่เหี้ยมโหดที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ได้จับมือกันและสาบานว่า จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มไอเอสในภูมิภาคนี้ ซึ่งกลุ่มนี้ได้แต่งตั้งแกนนำเครือข่ายสาขาประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมทั้ง ประกาศเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐอิสลาม อีกทั้ง แสดงความแข็งแกร่งผ่านการชูธงของกลุ่มไอเอสและการโชว์อาวุธ
การเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรงที่ทำการก่อการร้ายและลักพาตัวเป็นปัญหาที่ทางการฟิลิปปินส์ต้องเผชิญ รัฐบาลของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เตได้พยายามปราบปรามกลุ่มญิฮาดหัวรุนแรงและป้องกันการเผยแพร่แนวคิดมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศ นับตั้งแต่ปี2016 นาย โรดริโก ดูเตอร์เตได้เตือนหลายครั้งว่า จะประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้ง ปัญหายาเสพติด การประกาศใช้กฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนาได้มีขึ้นในขณะที่นาย โรดริโก ดูเตอร์เตยังไม่ได้ยกเลิกการประกาศภาวะฉุกกฉินในทั่วประเทศหลังจากเกิดเหตุระเบิดในเมืองดาเวาของจังหวัดมินดาเนาเมื่อเดือนกันยายนปี2014 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต14คน ถึงแม้ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เตจะมีจุดยืนที่แข็งกร้าวและไม่ผ่อนปรนต่อกลุ่มก่อการร้ายแต่สถานการณ์ไร้เสถียรภาพในประเทศฟิลิปปินส์ก็ยังไม่มีสัญญาณที่จะยุติลงจนนำไปสู่การเสียเมืองมาราวีให้แก่กลุ่มกบฏที่มีนักรบเพียง500คน
ภัยคุกคามจากการที่กลุ่มก่อการร้ายขยายการเคลื่อนไหว
ในสภาวการณ์ที่กลุ่มไอเอสได้รับความเสียหายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสถานที่ดึงดูดความสนใจของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง โดยมีผู้นับถือศาสนาอิสลามคิดเป็นร้อยละ15ของจำนวนชาวมุสลิม1.57พันล้านคนในโลก โดยเฉพาะมาเลเซีย ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
มีความเป็นไปได้ที่จะมีการขยายอิทธิพลของกลุ่มไอเอสในบางประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากมีนักรบหัวรุนแรงนับพันคนได้สาบานว่า จะจงรักภักดีต่อกลุ่มไอเอส เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการแพร่คลิปวีดีโอของกลุ่มไอเอสเป็นภาษาBahasa Malay ตากาล็อกและภาษาอังกฤษ ที่เรียกร้องให้ผู้ที่ให้การสนับสนุนร่วมมือกับนักรบของกลุ่มนี้ในจุดร้อนต่างๆของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ ในภาคใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่า ปัจจุบัน มีชาวอินโดนีเซีย700คนและชาวมาเลเซีย100คนเข้าร่วมกลุ่มไอเอสในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนบรรดาเจ้าหน้าความมั่นคงก็ที่ได้ตรวจพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของกลุ่มไอเอสกับเหตุก่อการร้ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อเร็วๆนี้
จนถึงขณะนี้ การต่อต้านการก่อการร้ายของพันธมิตระหว่างประเทศที่สหรัฐเป็นผู้นำมีขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นหลักแต่กิจกรรมการก่อการร้ายไม่ได้ถูกจำกัดพื้นที่และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กลายเป็นจุดร้อนในการรับสมัครนับรบของกลุ่มไอเอส สถานการณ์ความไร้เสถียรภาพในภาคใต้ฟิลิปปินส์เป็นสิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก การที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นเป้าหมายของกลุ่มไอเอสได้สร้างความท้าทายใหม่ต่อประเทศในภูมิภาค ซึ่งประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องผลักดันความร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองอย่างจริงจังเพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้ .
Anh Huyen- VOV5