พรรคปลุกเร้าพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ

(VOVWORLD) - นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ปี 1930 จนถึงปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ตอบสนองความต้องการของประเทศและความปรารถนาอันแรงกล้าของประชาชาติด้วยแนวคิดหลักคือเอกราช ประชาชาติและลัทธิสังคมนิยม จากแนวทางที่ถูกต้องนี้ พรรคสามารถระดมและส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้อย่างเต็มที่ในทุกภารกิจ

ประธานโฮจิมินห์เคยยืนยันว่า “ต้องถือความสามัคคีภายในพรรคเหมือนลูกตาของตน” และจะไม่มีคำสรุปสั้นๆเกี่ยวกับบทบาทของมหาสามัคคีที่มีความลึกซึ้งกว่าคำพูดของประธานโฮจิมินห์คือ “สามัคคี สามัคคี มหาสามัคคี ความสำเร็จ ความสำเร็จ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่”

สามัคคีคือที่มาของทุกความสำเร็จ

รองศาสตราจารย์ ดร.  เหงียนจ่องฟุก อดีตหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์พรรคสังกัดสถาบันการเมืองและรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า พลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติคือแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายและทัศนะเชิงยุทธศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามนับตั้งแต่วันก่อตั้ง “ที่ประชุมก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1930 ได้อนุมัติเจตนารมณ์สำคัญของหลักนโยบายยุทธศาสตร์โดยย่อ สิ่งที่สำคัญคือได้มีการปรับปรุงองค์กรส่วนกลางให้มีความสมบูรณ์ สร้างเป็นศูนย์กลางที่เป็นเอกภาพเพื่อชี้นำและบริหารตั้งแต่สมัยที่ 1 แล้วค่อยๆมีการเกาะติดสถานการณ์เพื่อวางแนวทาง นโยบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง”

นับตั้งแต่มีพรรคนำการปฏิวัติเวียดนามจนถึงปัจจุบัน พลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาตินับวันได้รับการส่งเสริม เนื่องจากมีการผสานเกียรติประวัติที่ล้ำค่าของประชาชาติและการกำหนดตามหลักวิชาการของลัทธิมาร์ก – เลนินและแนวคิดโฮจิมินห์เกี่ยวกับมหาสามัคคีชนในชาติ ในทุกระยะการปฏิวัติ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามยกระดับความสามารถในการบริหารและพลังแห่งการต่อสู้ผ่านการส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติอยู่เสมอ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 เมื่อเร็วๆนี้ได้ยืนยันว่า “มหาสามัคคีชนในชาติคือแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของการปฏิวัติเวียดนาม เป็นพลังขับเคลื่อนและแหล่งพลังที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ”

พรรคคือแกนหลักของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ

รองศาสตราจารย์ ดร. ฝ่ามซวนหั่ง จากมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์สังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาติได้แสดงความเห็นว่า ภารกิจการปฏิวัติเวียดนามซึ่งอยู่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคือภารกิจที่ไม่สามารถแยกออกจากการสนับสนุนและส่วนร่วมของประชาชนได้ จากสภาวการณ์ของประเทศในปัจจุบันทำให้พรรคต้องแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งประชาธิปไตย เปิดเผยและโปร่งใสต่อประชาชน รับฟังความคิดเห็นวิพากวิจารณ์ในสังคมและต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบของประชาชน “เพื่อระดมพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติในระยะปัจจุบัน พรรคต้องปฏิบัติหน้าที่เหมือนแนวร่วม ดั่งเช่นในยุคต่อสู้ที่กล้าหาญและรุ่งโรจน์นั้นเพื่อเป็นแกนหลักของกลุ่มหาสามัคคีชนในชาติและพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติจะตัดสินใจปัญหาการสร้างสรรค์พลังภายในของประเทศ พรรคต้องแสดงให้เห็นถึงบทบาทของตนในกระบวนการให้เข้มแข็ง”

มีความผูกพันกับประชาชนเพื่อเพิ่มอำนาจของพรรครัฐบาล

พรรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีบทบาทเป็นพรรคกุมอำนาจ เป็นพรรคชี้นำเพียงองค์กรเดียวและเป็นศูนย์กลางระดมผู้ที่เป็นตัวแทนให้แก่ประชาชนทุกชั้นชน ดังนั้นมีแต่การสร้างความผูกพันที่ใกล้ชิดกับประชาชนผ่านการปฏิบัติที่จริงใจเท่านั้น พรรคถึงจะเสร็จสิ้นหน้าที่เป็นพรรคกุมอำนาจได้ นโยบายสามัคคีปวงชนของพรรคต้องอาศัยพื้นฐานการปกป้องสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายและชอบธรรมของประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งด้านวัตถุและจิตใจให้ดีขึ้น รองศาสตราจารย์ ดร. บุ่ยซวนดึ๊ก อดีตหัวหน้าสถาบันวิจัยแนวร่วมของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า “กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติต้องอาศัยการแก้ไขปัญหาของสมาชิกในสังคมอย่างกลมกลืน มหาสามัคคีชนในชาติคือการสร้างความสามัคคีในด้านการเมือง ในภารกิจการปฏิวัติ กองกำลังที่กุมอำนาจต้องสามัคคี ระดมกองกำลังต่างๆตามเจตนารมณ์แห่งความสามัคคี”

ด้วยความเชื่อมั่นต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่และการนำที่ถูกต้องของพรรค และอนาคตของประเทศ ประชาชนมีความประสงค์ว่า พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะแสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นแกนหลักของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ การส่งเสริมพลังของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติคือวิธีการที่พรรคผลักดันพลังที่เข้มแข็งในการชี้นำประชาชนปฏิบัติภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกให้ประสบความสำเร็จ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด