มุ่งบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจ

(VOVWORLD) - วันที่ 2 กรกฎาคม รัฐบาลเวียดนามได้จัดการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งเป็นการประชุมที่มีความหมายสำคัญในสภาวการณ์ที่การขยายตัวของจีดีพีใน 6 เดือนแรกของปีได้บรรลุร้อยละ 7.08 สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ใน 6 เดือนแรกของปี 2018 และวางแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ใน 6 เดือนที่เหลือของปี โดยผู้บริหารท้องถิ่นต่างๆได้แสดงความตั้งใจปฏิบัติเป้าหมายการขยายตัวให้ลุล่วงไปด้วยดี
มุ่งบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจ - ảnh 1ภาพการประชุม

ใน 6 เดือนแรกของปี 2018 เศรษฐกิจเวียดนามได้บรรลุอัตราการขยายตัวที่น่ายินดี โดยจีดีพีได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุดในรอบ 6 เดือนนับตั้งแต่ปี 2011 โดยหน่วยงานอุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิตมีส่วนร่วมสูงที่สุดคือกว่าร้อยละ 13 ยอดเงินลงทุนทางสังคมอยู่ที่กว่า 747 ล้านล้านด่ง คิดเป็นร้อยละ 32 ของจีดีพี เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะเศรษฐกิจนอกภาครัฐสามารถครองส่วนแบ่งมากที่สุดและมีอัตราการขยายตัวในระดับสูงสุด

นี่คือผลงานที่น่ายินดีและมีความหมายในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องของพรรคในการวางแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน

ตระหนักได้ดีถึงความท้าทาย

แม้ที่ประชุมได้ชื่นชมผลการพัฒนาของเศรษฐกิจแต่ผู้แทนหลายคนยังย้ำถึงความท้าทายที่เวียดนามต้องรับมือในเวลาข้างหน้า นั่นคือรูปแบบอัตราการขยายตัวจีดีพีของปี 2018 มีแนวโน้มค่อยๆ จากร้อยละ 7.45 ในไตรมาสแรกเหลือร้อยละ 6.79 ในไตรมาสที่ 2 แม้ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงแต่เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.7 จำเป็นต้องอาศัยความพยายามที่เข้มแข็งมากขึ้นในสองไตรมาสที่เหลือของปี 2018

สองคือ แม้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบการควบคุมแต่ดัชนีซีพีไอได้เพิ่มขึ้นในระดับ 2 เดือนติดต่อกัน คือร้อยละ 0.55 ในเดือนพฤษภาคมและร้อยละ 0.61 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งถ้าหากยังคงเพิ่มขึ้นตีอไปก็จะส่งผลกระทบต่อการควบคุมเป้าหมายซีพีไอตลอดทั้งปีต่ำกว่าร้อยละ 4 และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นราคาสินค้าสองครั้งคือช่วงเปิดเทอมและช่วงปลายปี

นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า เศรษฐกิจโลกจะไม่สามารถธำรงอัตราการขยายตัวในระดับค่อนข้างสูงในปี 2019 และส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อบรรดาประเทศที่กำลังพัฒนาและประเทศส่งออกรายใหญ่ รวมทั้งเวียดนาม ดังนั้นจำเป็นต้องมีมาตรการสำรองเพื่อธำรงเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเน้นผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การพัฒนาในด้านคุณภาพของหน่วยงานและด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในประเทศต่อการผันผวนที่ยากจะคาดการณ์ได้ของเศรษฐกิจและการค้าโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน เหงียนชี้หยุงเผยว่า            “ต้องประสานงานอย่างใกล้ชิด มีการบริหารอย่างคล่องตัวและเฝ้าติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเพื่อมีมาตรการแก้ไขอย่างทันการณ์ ควบคู่กันนั้น ต้องผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับปรุงยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในยุคแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ให้สมบูรณ์อย่างรวดเร็ว ผลักดันให้เศรษฐกิจภาคเอกชนเข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าโลกและการเบิกจ่ายเงินลงทุนของภาครัฐอย่างรวดเร็ว”

ท้องถิ่นให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในปี 2018 นอกจากการชี้นำของรัฐบาล การปฏิบัติในท้องถิ่นก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยในการประชุมครั้งนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นหลายคนได้เสนอขั้นตอนการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในจังหวัดและนครต่างๆ รวมทั้งความตั้งใจเพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่วางไว้ ซึ่งเน้นยกระดับคุณภาพของการขยายตัว ระดมพลังทุกแหล่งเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในตัวเมือง นายเหงียนดึ๊กจุง ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยเผยว่า“กรุงฮานอยจะปฏิบัติหน้าที่ในมติที่ 01 ของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำการปฏิรูประเบียบราชการและบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมต่อไป ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2018 ทางการกรุงฮานอยจะเน้นปฏิรูปสำนักงานภาครัฐและพัฒนาการเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตเพื่อให้เศรษฐกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ในขณะเดียวกัน นาย เหงียนแถ่งฟอง ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ยืนยันว่า            “นครโฮจิมินห์จะสนับสนุนสถานประกอบการ ผลักดันการแปรบริษัทภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน การปฏิรูปสถานประกอบการ เน้นพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำ จัดทำร่างโครงการเขตตัวเมืองที่มีความคิดสร้างสรรค์ในบริเวณทางทิศตะวันออกของนครโฮจิมินห์ พร้อมทั้งปฏิบัติมาตรการแก้ไขอย่างพร้อมเพรียงเพื่อธำรงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและบทบาทการเป็นหัวเรือของนครโฮจิมินห์”

ครึ่งปี 2018 ได้ผ่านพ้นไป ผลงานด้านเศรษฐกิจนี้ถือเป็นความพยายามที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่รัฐบาลและท้องถิ่นก็ต้องเป็นฝ่ายรุกและตระหนักได้ดีถึงความท้าทายและจุดอ่อนเพื่อมีส่วนร่วมธำรงเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด