มรสุมความสัมพันธ์ที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐกับคิวบา

(VOVWORLD) - เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้ “สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ” ต่อคิวบาต่อไป พร้อมทั้งคงข้อกำหนดในการจำกัดการจอดเรือทอดสมอและการเดินเรือไปยังคิวบา ซึ่งการตัดสินใจล่าสุดของนาย โดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายต่อคิวบาถือเป็นก้าวถอยหลังที่น่าเสียดายและทำให้คิวบาและสหรัฐอยู่ไกลกันมากขึ้น
มรสุมความสัมพันธ์ที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐกับคิวบา - ảnh 1(Photo: AP) 

 

การตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ มีขึ้นหลังจากคณะสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐเสร็จสิ้นการเยือนคิวบาเพื่อศึกษาสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐต่อคิวบาในระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ไม่กี่วัน

ตามการตัดสินใจนี้  เรือที่อยู่ภายใต้การบริหารของสหรัฐถ้าเดินเรือเข้าเขตน่านน้ำของคิวบาโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่าทำผิดกฎหมายสหรัฐและ“เดินสวนกับนโยบายของประเทศ” นอกจากนี้ คำประกาศของทำเนียบขาวยังกล่าวถึงมาตรการในลักษณะเดียวกันที่การประกาศใช้เมื่อปี 1999 2004 และ 2016

นโยบายที่ขาดความเป็นมิตร

จากการประกาศใช้การตัดสินใจใหม่ได้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับคิวบายังไม่คลี่คลายลง โดยความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบาเลวร้ายลงหลังจากวอชิงตันประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่คิวบาที่ถูกห้ามทำธุรกรรมและเดินทางเข้าสหรัฐ ภายหลังชัยชนะของคิวบาในการลงคะแนนคัดค้านนโยบายคว่ำบาตรของสหรัฐในการประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ด้วยเสียงสนับสนุน 191 เสียงจากจำนวนทั้งหมด 193 เสียงเพียง 1 สัปดาห์ ต่อจากนั้น วอชิงตันได้กลับไปใช้นโยบายคว่ำบาตรที่เข้มงวดมากขึ้น โดยข้อกล่าวหาว่า คิวบาใช้ “การโจมตีด้วยคลื่นเสียง” ใส่นักการทูตสหรัฐในคิวบา ซึ่งฝ่ายคิวบาได้ยืนหยัดปฏิเสธคำกล่าวหาของวอชิงตัน ก่อนหน้านั้น สหรัฐได้ตัดสินใจเรียกเจ้าหน้าที่นักการทูตกว่าครึ่งหนึ่งในคิวบากลับประเทศ เนรเทศนักการทูตคิวบา 15 คนและระงับกิจกรรมกงสุลในคิวบา ด้วยข้อกล่าวหาว่า คิวบาใช้อาวุธคลื่นเสียง นอกจากนี้บันทึกช่วยจำความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายของสหรัฐต่อคิวบาที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 16 มกราคมปี 2017 ณ  Miami ได้มีข้อกำหนดที่เข้มงวดในการเดินทาง ห้ามพลเมืองสหรัฐทำธุรกิจกับสถานประกอบการภาครัฐที่มีความสัมพันธ์กับกองทัพและกองกำลังรักษาความมั่นคงคิวบา ยุติทุกกิจกรรมพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ยกเว้นการเยือนระหว่างญาติมิตรเท่านั้น 

สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า นโยบายที่สหรัฐประกาศใช้ต่อคิวบาในเวลาที่ผ่านมาขาดเจตนาที่ดีของทางการประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อคิวบา และถือเป็นก้าวถอยหลังของทางการประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในด้านความสัมพันธ์กับคิวบา

อนาคตที่มืดมน

ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบาที่กำลังทวีความตึงเครียด คณะส.ส ของสหรัฐนำโดยสมาชิกวุฒิสภาของพรรคเดโดแครต Patrick Leahy ได้เดินทางไปเยือนคิวบาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ประชามติมีความหวังว่า การเยือนเป็นเวลา 3 วันของคณะส.ส สหรัฐจะนำสัญญาณที่น่ายินดีมาให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ประสบอุปสรรคมากมาย ซึ่งในการเยือนนี้ได้มีการหารือในหลายประเด็น เช่นความร่วมมือทวิภาคีเกี่ยวกับความมั่นคงในการเดินเรือ การค้นหากู้ภัย การต่อต้านการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ ปัญหาผู้อพยพ เนื้อหาที่เกี่ยวข้องถึงการกล่าวหาว่า คิวบาใช้อาวุธคลื่นเสียงและสุขภาพของเจ้าหน้าที่นักการทูตสหรัฐในคิวบา แต่ที่น่าเสียดายที่ผลการเยือนนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยต่อประชามติ รวมถึงยังไม่มีการพูดถึงการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการเยือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเยือนไม่บรรลุผลงานที่น่ายินดี โอกาสในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังคงมืดมน

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบามีบางช่วงที่อบอุ่นในสมัยสุดท้ายของประธานาธิบดี บารัค โอบามา  แต่การปฏิบัตินโยบายที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อคิวบาของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำให้สถานการณ์กลับไปสู่ช่วงเวลาที่เลวร้าย ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นระหว่างคิวบากับสหรัฐประสบกับมรสุมมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด