สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอินเดีย

(VOVWORLD) - ประธานาธิบดีอินเดีย ราม นาถ โกวินท์ และภริยากำลังอยู่ระหว่างการเยือนประเทศเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง ซึ่งการเยือนนี้ถือเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอินเดีย - ảnh 1พิธีต้อนรับ

การที่นาย ราม นาถ โกวินท์ เลือกเวียดนามเป็นประเทศแรกในการเยือนเอเชียหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอินเดียถือเป็นการให้ความสำคัญต่อประเทศเวียดนามและพิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความสัมพันธ์ทวิภาคีที่กำลังพัฒนาอย่างดีงามและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เนื้อหาที่หลากหลายของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน

นับตั้งแต่ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเมื่อปี 2016 ทั้งสองประเทศได้มีการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงเป็นประจำทุกปี และนอกจากความสัมพันธ์ด้านการเมือง- การทูต กลาโหม – ความมั่นคงที่ดีงาม ในหลายปีมานี้ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเวียดนามกับอินเดียก็พัฒนาอย่างข้ามขั้นและปัจจุบัน อินเดียเป็นหนึ่งใน 12 หุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

มูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปีงบประมาณ 2017-2018 อยู่ที่กว่า 1 หมื่น 2 พัน 8 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว การส่งออกของอินเดียไปยังเวียดนามบรรลุ 7.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 15 ส่วนการนำเข้าได้บรรลุกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 51 โดยเฉพาะใน 10 เดือนที่ผ่านมาของปี 2018 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้บรรลุ 9.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากผลสำเร็จที่น่ายินดีดังกล่าวบวกกับความตั้งใจของรัฐบาลและสถานประกอบการของทั้งสองประเทศทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะบรรลุ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 ตามแผนที่วางไว้ของผู้นำทั้งสองประเทศ นายฝามแซงโจว์ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอินเดียให้ข้อสังเกตว่า            “ปัจจุบันนี้ อินเดียเป็น 1 ใน 3 หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านที่สำคัญของเวียดนาม พร้อมทั้งเป็นตลาดท่องเที่ยวและตลาดนำเข้ารายใหญ่และเต็มไปด้วยศักยภาพแต่เวียดนามยังไม่สามารถใช้โอกาสได้อย่างเต็มที่ อินเดียมีประชากร 1.4 พันล้านคน เป็นประเทศใหญ่ที่ไม่เคยมีความขัดแย้งกับเวียดนามในประวัติศาสตร์ ซึ่งจุดนี้ทำให้ทั้งสองประเทศมีความไว้วางใจด้านการเมืองในระดับสูง ผมคิดว่า ศักยภาพความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอินเดียยังมีอีกมาก”

สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอินเดีย - ảnh 2ประธานาธิบดีอินเดียกับเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง

ความคล้ายคลึงกันทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมได้อำนวยความสะดวกให้ทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือในหลายด้าน เช่น การศึกษา สาธารณสุข การแพทย์ การท่องเที่ยว วัฒนธรรมและการพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชน โดยความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงคือจุดเด่นของความสัมพันธ์ร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านดั่งคำประเมินของอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ดั่งดิ่งกวี๊            “ทั้งสองประเทศมีโครงการร่วมมือในหลายด้าน เช่น การค้าขายอาวุธ การวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การทหาร โดยเฉพาะความร่วมมือในการฝึกอบรม อินเดียได้มอบทุนการศึกษาด้านความมั่นคง กลาโหมและการฝึกอบรมทหารเวียดนามให้สามารถปฏิบัติหน้าที่กับยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น เรือดำน้ำและเครื่องบินรุ่นใหม่”

การเยือนเพื่อขยายความร่วมมือในหลายด้าน

เวียดนามให้ความสำคัญต่อ “นโยบายที่มุ่งสู่ทิศตะวันออก” ของอินเดียและยืนยันว่า ในฐานะผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน – อินเดีย เวียดนามจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างอาเซียนกับอินเดียให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ส่วนอินเดียได้ยืนยันว่า อาเซียนเป็นศูนย์กลางในนโยบายดังกล่าวของอินเดียและเป็นศูนย์กลางของความฝัน “ศตวรรษแห่งเอเชีย” ของอินเดีย ส่วนเวียดนามเป็นเสาหลักสำคัญในนโยบายดังกล่าว

ในสภาวการณ์ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการอินเดียต่างให้ข้อสังเกตว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีอินเดียมีความหมายสำคัญและมีส่วนร่วมผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ การเยือนเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายเพราะเวียดนามตั้งอยู่ในทิศตะวันออกของอินเดียและเป็นประเทศอาเซียนประเทศแรกที่นาย ราม นาถ โกวินท์ เดินทางมาเยือนในกรอบการเยือนเอเชียหลังขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอินเดีย ซึ่งมีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีและเปิดโอกาสให้เวียดนามและอินเดียขยายความสัมพันธ์ในขอบเขตที่กว้างใหญ่มากขึ้นในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย – แปซิฟิก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด