สานต่อความพยายามรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

(VOVWORLD) - การที่มีเกือบ 200 ประเทศและดินแดนเห็นพ้องกระบวนการปฏิบัติข้อตกลงปารีส 2015 คือจุดเด่นในการประชุมสุดยอดของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ COP 24 ณ ประเทศโปแลนด์เมื่อปลายสัปดาที่ผ่านมาและเป็นชัยชนะของการเจรจาพหุภาคีที่หลายประเทศต้องสละผลประโยชน์เฉพาะชาติเพื่อเป้าหมายร่วมคือ ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในทั่วโลก แม้ยังมีความท้าทายต่างๆรออยู่เบื้องหน้าแต่อาจกล่าวได้ว่า โลกได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นในการยับยั้งการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก
สานต่อความพยายามรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ - ảnh 1Photo Reuters

การประชุมสุดยอดของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 2-14 ธันวาคมเพื่อแก้ไขความชงักงันของการปฏิบัติข้อตกลงปารีส เพราะอีก 2 ปีคือในปี 2020 ข้อตกลงปารีสจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแต่โลกก็ยังไม่สามารถมีกระบวนการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ผลที่สำคัญ

สหประชาชาติได้ถือว่า COP 24 คือการประชุมที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศนับตั้งแต่ที่ข้อตกลงปารีสได้รับการอนุมัติเมื่อปี 2015 และกระบวนการปฏิบัติข้อตกลงฉบับนี้เป็น 1 ในเป้าหมายที่ต้องบรรลุในการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อการผันผวนของสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนนับวันยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่เฉพาะเจาะจงและชัดเจนถึงจะประเมินได้ว่าประเทศต่างๆปฏิบัติข้อตกลงฉบับนี้อย่างไร

ในความเป็นจริง ยากที่จะทำให้ทุกฝ่ายสามารถเห็นพ้องรอบการปฏิบัติที่มีลักษณะด้านเทคนิคและมีข้อกำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการบังคับให้ทุกประเทศต้องมีการรายงานอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับปริมาณควันพิษและการลดการปล่อยควันพิษ ซึ่งในสองสัปดาห์ของการประชุม COP 24 ได้มีการเจรจาและการหารืออย่างตึงเครียด โดยเฉพาะความขัดแย้งในวันสุดท้ายของการประชุมได้ส่งผลให้คณะกรรมการจัดงานต้องขยายเวลาการประชุมเพิ่มอีก 1 วันและนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติต้องกลับโปแลนด์อีกครั้งหลังจากกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการเจรจาเพื่อเร่งรัดให้ผู้นำประเทศและคณะเจรจาแสดงความตั้งใจด้านการเมืองเกี่ยวกับการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น

ผลที่น่ายินดีคือได้มีระเบียบวาระการประชุมเกี่ยวกับการปฏิบัติข้อตกลงปารีส 2015 โดยมีข้อกำหนดที่ระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบของทุกประเทศในปัญหานี้คือ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ทุกๆ 2 ปี ทุกประเทศต้องรายงานต่อสหประชาชาติเกี่ยวกับผลการปฏิบัติโครงการลดควันพิษและต้องปรับปรุงยกระดับเป้าหมายการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทุกๆ 5 ปี สำหรับด้านการเงิน บรรดาประเทศอุตสาหกรรมได้อนุญาตให้เขียนในส่วนอ้างอิงเกี่ยวกับคำมั่นที่จะสมทบเงินทุนให้ประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อปฏิบัติโครงการลดผลกระทบและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งพัฒนาการใช้พลังงานสะอาด

ยังมีความท้าทายต่างๆรออยู่ในเบื้องหน้า

แม้การประชุม COP 24 ได้บรรลุกระบวนการปฏิบัติข้อตกลงปารีส 2015 แต่กลุ่มปฏิบัติเพื่อสิ่งแวดล้อมยังเผยว่า ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการเพิ่มเป้าหมายเกี่ยวกับการลดควันพิษที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกเพื่อควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกได้ ประเทศที่ยากจนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการใช้เงินมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีของกองทุนเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถึงปี 2020 นอกจากนี้ในตลอด 2 สัปดาห์ของการประชุมได้แสดงให้เห็นว่า แม้ตระหนักได้ดีแต่ประเทศต่างๆยังมีทัศนะและวิธีการเข้าถึงที่แตกต่างกันเกี่ยวกับปัญหานี้และผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจยังได้รับความสนใจมากกว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลกในอนาคต

การประชุม COP 24 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยผลสำเร็จที่สำคัญ แม้ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันแต่ก็ต้องยอมรับว่า จากการประชุมนี้ โลกได้มีก้าวเดินที่ยาวไกลขึ้นเพื่อควบคุมการเพิ่มของอุณหภูมิโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด