โลกแตกแยกจากการแก้ไขวิกฤตซีเรีย

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 7 เมษายน สหรัฐได้ยิงจรวดโทมาฮอว์ก 59 ลูกถล่มฐานทัพอากาศซีเรีย ซึ่งได้สร้างความตกตะลึงต่อผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง การทหารและประชาคมระหว่างประเทศ เพราะว่า ก่อนหน้านั้น รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐมีแนวทางไม่แทรกแซงกิจการภายในของซีเรีย รวมทั้งการร่วมมือกับประธานาธิบดีซีเรีย บาร์ซา อัลอัสซาดเพื่อต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส แต่ที่น่าสนใจคือหลังเหตุการณ์ดังกล่าว วิธีการแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหานี้ของทุกประเทศได้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกและขัดแย้งอย่างลึกซึ้ง จนอาจทำให้การต่อต้านกลุ่มไอเอสต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 7 เมษายน สหรัฐได้ยิงจรวดโทมาฮอว์ก 59 ลูกถล่มฐานทัพอากาศซีเรีย ซึ่งได้สร้างความตกตะลึงต่อผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง การทหารและประชาคมระหว่างประเทศ เพราะว่า ก่อนหน้านั้น รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐมีแนวทางไม่แทรกแซงกิจการภายในของซีเรีย รวมทั้งการร่วมมือกับประธานาธิบดีซีเรีย บาร์ซา อัลอัสซาดเพื่อต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส แต่ที่น่าสนใจคือหลังเหตุการณ์ดังกล่าว วิธีการแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหานี้ของทุกประเทศได้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกและขัดแย้งอย่างลึกซึ้ง จนอาจทำให้การต่อต้านกลุ่มไอเอสต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่

โลกแตกแยกจากการแก้ไขวิกฤตซีเรีย - ảnh 1
ชาวกรุงดามัสกัสประท้วงการยิงจรวดของสหรัฐ(PhotoEPA/VNplus)

คำประกาศและทัศนะที่ขัดกันหลังจากที่สหรัฐได้ยิงจรวดโทมาฮอว์กใส่ฐานทัพอากาศซีเรียโดยไม่แจ้งล่วงหน้านั้นได้ทำให้การยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานหลายปีในซีเรียตกเข้าสู่ภาวะชงักงัน

สนับสนุนและคัดค้าน

แม้รัสเซียและอิหร่านได้ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีดังกล่าวของสหรัฐ โดยถือเป็นการยั่วยุเพื่อต่อต้านประเทศที่มีอธิปไตยและละเมิดกฎหมายสากล หลายประเทศได้สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารเพียงฝ่ายเดียวดังกล่าวของรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์

ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐได้ประกาศว่า สนับสนุนอย่างเต็มที่และถือเป็น “การตัดสินใจที่กล้าหาญ” ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียได้ประกาศว่า ทุกปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐใส่ฐานทัพซีเรียล้วนเป็นการตอบโต้การใช้อาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ส่วนอังกฤษก็แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า การโจมตีทางอากาศของสหรัฐเป็นปฏิกิริยาที่เหมาะสมเพื่อตอบโต้ “การโจมตีด้วยอาวุธเคมีที่ป่าเถื่อน” ของรัฐบาลซีเรีย ตุรกีเผยว่า ถือการโจมตีทางอากาศของสหรัฐเป็นการกระทำ “ในเชิงบวกอย่างมาก” และยืนยันว่า จะสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้นาย บาร์ซา อัลอัสซาด ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบเกี่ยวกับพฤติกรรมของรัฐบาล หลังการหารือฉุกเฉิน เยอรมนีและฝรั่งเศสได้ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้มีมาตรการแก้ไขอย่างสันติโดยสหประชาชาติเป็นคนกลาง พร้อมทั้งเผยว่า ระบอบของนาย บาร์ซา อัลอัสซาด ต้องมีความรับผิดชอบต่อการโจมตีด้วยอาวุธเคมีนี้และถือว่า ปฏิกิริยาของสหรัฐเป็นเรื่องที่ “สามารถยอมรับได้” ส่วนประเทศจีนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติข้อตกลงทางการเมืองเพื่อพยายามยับยั้งการทวีความรุนแรงด้านทหาร

ในประเทศสหรัฐ ฝ่ายการเมืองต่างๆก็มีความแตกแยกหลังเหตุการณ์ดังกล่าว โดยส.ส.บางนายได้ชื่นชมปฏิบัติการที่รวดเร็วของนายโดนัลด์ ทรัมป์ บางก็แสดงความระมัดระวังและตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความชอบธรรมของการโจมตีดังกล่าว ซึ่งฝ่ายสนับสนุนได้ชื่นชมว่า เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดและรวดเร็วแต่ฝ่ายคัดค้านได้กล่าวหาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้สั่งโจมตีโดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐสภา ซึ่งถือว่าละเมิดรัฐธรรมนูญ
โลกแตกแยกจากการแก้ไขวิกฤตซีเรีย - ảnh 2
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ (PhotoAFP/TTXVN)

ทางไหนให้แก่วิกฤตซีเรีย

การโจมตีครั้งนี้เป็นปฏิบัติการทางทหารแรกของสหรัฐที่มุ่งเป้าไปยังรัฐบาลของนาย บาร์ซา อัลอัสซาด หลังจากที่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรียและเป็นปฏิบัติการทางทหารแรกของนายโดนัลด์ ทรัมป์นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยอ้างเหตุผลที่ทางการซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมากเมื่อก่อนนั้นไม่กี่วัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเบื้องหลังการตัดสินใจดังกล่าวยังมีข้อความที่ลึกซึ้ง ตามความคิดเห็นของผู้สังเกตการณ์ การยิงจรวดโทมาฮอว์กใส่ฐานทัพซีเรียอาจเป็นแผนการของนายโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อเป็นฝ่ายรุกในภูมิภาคตะวันออกกลางและกำหนดขอบเขตอิทธิพลของตน หลังการโจมตีที่สร้างแรงสั่นสะเทือนนี้ ประชาคมโลกกำลังรอคอยสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสงครามอย่างนองเลือดในซีเรียจะสามารถอดทนกับสงครามในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นได้หรือไม่ แต่แน่นอนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐจะแตกแยกมากขึ้นหลังเหตุการณ์ดังกล่าว

เมื่อไม่นานมานี้ ทุกคนได้มีความหวังว่า ปัญหาซีเรียจะได้รับการแก้ไขเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวิธีการเข้าถึงของประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะแผนการที่มุ่งสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูประเทศซีเรียของสหภาพยุโรป ซึ่งในนั้นซีเรียต้องการสันติภาพที่สนับสนุนโดยประชาคมระหว่างประเทศแทนสงครามที่สนับสนุนโดยประชาคมระหว่างประเทศที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 ปี แต่จากสภาวการณ์ปัจจุบัน ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่มีอิทธิพลมากต่อเซียเรียกำลังกีดขวางความพยายามแสวงหามาตรการแก้ไขการปะทะในซีเรีย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด