กระแสสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ในเวียดนามและอาเซียน
Minh Lý - vOV5 -
(VOVworld) - เมื่อเอ่ยถึงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ทุกคนมักจะนึกถึงกระแสสถาปัตยกรรมที่เริ่มขึ้นในยุโรปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19และต้นศตวรรษที่ 20 และแพร่ขยายกลายเป็นกระแสสถาปัตยกรรมสำคัญในทั่วโลกและพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงปี 1970 โดยเลอคอบูซิเยร์ สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเชื้อสายสวิสเซอร์แลนด์คือหนึ่งในสถาปนิก ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุคสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ในโอกาสเดือนสถาปัตยกรรมในกรุงฮานอย ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ เช่น การฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับลอคอบูซิเยร์ และงานนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเวียดนามและอาเซียน
งานนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเวียดนามและอาเซียน เป็นหนึ่งในกิจกรรมเดือนแห่งสถาปัตยกรรม ณ กรุงฮานอย นอกจากนี้ ยังมีการฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับสถาปนิกชื่อดังแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เช่น หลุยส์ คาห์นและการเสวนาเกี่ยวกับมรดกสถาปัตยกรรมสมัยใหม่.
(VOVworld) - เมื่อเอ่ยถึงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ทุกคนมักจะนึกถึงกระแสสถาปัตยกรรมที่เริ่มขึ้นในยุโรปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19และต้นศตวรรษที่ 20 และแพร่ขยายกลายเป็นกระแสสถาปัตยกรรมสำคัญในทั่วโลกและพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงปี 1970 โดยเลอคอบูซิเยร์ สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเชื้อสายสวิสเซอร์แลนด์คือหนึ่งในสถาปนิกที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุคสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ในโอกาสเดือนสถาปัตยกรรมในกรุงฮานอย ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ เช่น การฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับลอคอบูซิเยร์ และงานนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเวียดนามและอาเซียน
การฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับสถาปนิกเลอคอบูซิเยร์
|
เวลา 15.00น. ก่อนพิธีเปิดงานนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับกระแสสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเวียดนามและอาเซียน 2 ชั่วโมง ที่ ศูนย์รวมความสร้างสรรค์ Heritage Space ที่ชั้น 2 ของอาคารแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ได้มีการฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับสถาปนิกเลอคอบูซิเยร์
“อาคาร La cite radieuse เป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของกระแสสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ชาวมาร์เซย์เรียกอาคารแห่งนี้ว่า อาคารของคนบ้า นี่เป็นผลงานของเลอคอบูซิเยร์ - สถาปนิกผู้ทรงอิทธิพลแห่งศตวรรษที่20”
อาคาร La cite radieuse
|
นี่คือคำบรรยายเกี่ยวกับอาคาร La cite radieuse ที่เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1947 และก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1952 ณ เมืองมาร์เซย์ ประเทศฝรั่งเศส อาคาร La cite radieuse ตั้งอยู่บนเสาคอนกรีตต่างๆ การจัดรูปทรงอย่างอิสระ ด้านหน้ามีพื้นที่กว้าง หน้าต่างตั้งตามแนวนอนและหลังคาทรงแบน มีห้องอพาร์ทเมนต์ 327 ห้องที่มีการออกแบบแตกต่างกัน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ทางเดินเปรียบเสมือนถนนเล็กๆไปสู่ห้องต่างๆ รวมทั้งโรงแรมมีห้องให้บริการ 21 ห้อง สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่นและพื้นที่ให้บริการ นาย เลเหวียดห่า ประธานกรรมการบริหารบริษัท Ashui เวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทสื่อด้านสถาปัตยกรรมที่ดูแลการจัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์และงานนิทรรศการดังกล่าวได้อธิบายว่า“ก่อนกระแสสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ได้มีการใช้เสา ผนังรับน้ำหนักและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆเพื่อตกแต่งกิจการก่อสร้าง แต่ถึงยุคของกระแสสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก พวกเขาได้เน้นโครงสร้างที่อิสระ ใช้เทคโนโลยีในการผลิตคอนกรีตและวัสดุใหม่ๆเพื่อก่อสร้างอาคารที่มีพื้นที่กว้างขึ้นและเน้นใช้ประโยชน์จากการออกแบบอาคารให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเจ้าของบ้านอย่างเต็มที่”
งานนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเวียดนามและอาเซียน
|
หลังการฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับเลอคอบูซิเยร์ ได้มีการเปิดงานนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเวียดนามและอาเซียน โดยจัดแสดงภาพถ่ายเกี่ยวกับกิจการที่เป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ซึ่งในนั้น เวียดนามมีกิจการที่โดดเด่นต่างๆ เช่น หอวัฒนธรรมเด็กฮานอยที่เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1974 และก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1977 มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคฮานอยที่วางศิลฤกษ์ก่อสร้างเมื่อปี 1960 และก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1965และโรงแรมทั้งเหล่ยที่เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1973 ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1975 นางฝ่ามถิถวีลวาน รองหัวหน้าสถาบันวิจัยสถาปัตยกรรมแห่งชาติและเป็นผู้ที่หาภาพต่างๆมาจัดแสดงในงานนิทรรศการได้กล่าวว่า“ถ้ามองจากด้านหน้า จะเห็นว่า นี่ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างที่หรูหรา แต่หลังจากที่ได้ศึกษาสิ่งปลูกสร้างและพบปะกับสถาปนิกที่ออกแบบกิจการเหล่านี้ จะสามารถเรียนรู้แนวคิดที่สร้างสรรค์และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของกรุงฮานอยและเวียดนาม ซึ่งหนึ่งในกิจการที่ดิฉันชื่นชอบคือหอวัฒนธรรมเด็กฮานอยของสถาปนิก เลวันเลิน โดยเขาได้ใช้วัสดุต่างๆ เช่น หินล้าง ผนังกระจกและอิฐโปร่งก่อผนังเพื่อเป็นช่องแสง ถ่ายเทอากาศและเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในหน้าร้อน”
หอวัฒนธรรมเด็กฮานอย
|
คุณ Julia Hollnagel ชาวออสเตรเลียที่ทำงานในญี่ปุ่น ซึ่งมาดูงานในกรุงฮานอยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ กำลังดูภาพถ่ายสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ของสิงคโปร์และให้ความสนใจเป็นพิเศษต่ออาคาร Golden Mile Complex ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1995“กิจการเหล่านี้ดูคุ้นตามากและมีความทันสมัยเมื่อเทียบกับสิ่งปลูกสร้างต่างๆในญี่ปุ่น ดิฉันชอบสถาปัตยกรรมของอาคาร Golden Mile Complex มากเนื่องจากการจัดรูปทรงที่อิสระ มีหลายห้องที่สามารถรองรับวัตถุประสงค์ในการใช้งานต่างๆได้”
อาคาร Golden Mile Complex
|
ส่วนคุณ ต่าย นักศึกษาปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสถาปัตยกรรมฮานอยกำลังดูภาพถ่ายเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ของพม่าและเผยว่า“นอกเหนือจากการจัดแบ่งระเบียงและหน้าต่างแล้ว ยังมีการจัดแบ่งรูปทรงของกิจการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1956 และปี 1962 ซึ่งคล้ายๆกิจการต่างๆในกรุงฮานอย เช่น เขตที่อยู่อาศัยในเขตแทงซวนที่ใช้อิฐโปร่งในการก่อสร้างผนังส่วนบันไดเพื่อให้แสดงแดดส่องเข้าอาคาร”
ตามความเห็นของนางฝ่ามถวีลวาน สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในประเทศอาเซียนมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างเนื่องจากกระแสสถาปัตยกรรมสมัยใหม่เป็นกระแสที่พัฒนาทั่วโลกและได้รับผลกระทบจากวัฒนธรรม สภาพอากาศและการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะสนามกีฬาในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาของสถาปนิก Van Molyvan ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ดีของสถาปนิกเลอคอบูซิเยร์ โดยเขาได้เชื่อมโยงสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม และมนุษยธรรมกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่น โดยปราสาทพระวิหารเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมด้านสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรมของกัมพูชา ซึ่งกิจการของ Van Molyvan เปรียบเสมือนผลงานปฏิมากรรมแห่งยุคสมัย”
สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ของกัมพูชา
|
ส่วนสำหรับคุณผู้ฟังที่อยากศึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมเหล่านี้ ก็สามารถไปได้ที่ศูนย์รวมความสร้างสรรค์ Heritage Space -Dolphin Plaza เลขที่ 6 ถนนNguyễn Hoàng หรือ เลขที่ 28 ถนนTrần Bình เขตMỹ Đình 2 นะคะ โดยจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9.00น.ถึง 17.00น.ทุกวันไปจนถึงวันที่ 28 พฤาภาคม.
Minh Lý - vOV5