นักท่องเที่ยวชมดอกท้อสีชมพูที่ตลาดดอกไม้วสันตฤดูห่างเหลือก

ชาวฮานอยได้ฉลองเทศกาลตรุษเต๊ตปีมะแมด้วยความสุขสนุกสนาน  ตามถนนสายต่างๆในฮานอยมีดอกไม้นานาชนิดและหลากหลายสีสันทั้งที่นำมาจากกรุงเก่าเว้ นครโฮจิมินห์ เมืองดาลัตหรือจากต่างประเทศแต่สำหรับชาวฮานอย ดอกท้อถือเป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้ในช่วงตรุษเต๊ต นายเหงวียนดึ๊กบิ่งชาวฮานอยคนหนึ่งกล่าวว่า“ดอกท้อเป็นสัญลักษณ์ของวสันตฤดู การเจริญเติบโต ความมั่งคั่ง และสิริมงคลในปีใหม่ ดังนั้นต้องมีดอกท้อในบ้านในช่วงตรุษเต๊ต ถ้าไม่มีดอกท้อไม่ก็เหมือนไม่ใช่วสันตฤดูและตรุษเต๊ต”

สำหรับชาวฮานอยซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อดอกไม้และ ไม้ประดับ ปีนี้มีชาวฮานอยหลายคนได้นิยมซื้อต้นไม้ประดับที่เป็นเอกลักษณ์ของนายเลดึ๊กยาป เกษตรกรที่อำเภอหว่ายดึ๊กที่ประสบความสำเร็จในการทาบกิ่งผลไม้๙ชนิดบนต้นเดียวกันคือ มะนาว มือพระพุทธเจ้า  ส้มโอ ส้มเช้ง ส้มเขียวหวาน ส้มจี๊ต  มะนาวแดง ส้มโอแดง ส้มเขียวหวานวิงและส้มโอหอม จากความคิดสร้างสรรค์นี้ นายเลดึ๊กยาปสามารถสร้าง ไม้ประดับที่แปลกๆ มีสีสันหลากหลายและกลิ่นหอมมาบริการลูกค้าตรงช่วงตรุษเต๊ตและได้มีผู้มาสั่งซื้อหมดทั้ง๒๐๐ต้นก่อนตรุษเต๊ต  นายเลดึกกยาปกล่าวต่อไปว่า“เลข๙คือเลขมงคล  ผมได้พยายามทำต้นไม้ประดับที่มีผลไม้๙ชนิดพร้อมสีสันที่หลากหลายเพื่อขายในช่วงตรุษเต๊ต”

ถ้าฮานอยเป็นนครแห่งดอกท้อสีชมพู  นครโฮจิมินห์ก็คือนครแห่งดอกเหมยสีเหลือง ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ไม่อาจขาดได้สำหรับชาวภาคใต้ในช่วงตรุษเต๊ต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า บรรดาเจ้าของสวนในนครโฮจิมินห์ได้รับซื้อดอกเหมยนับพันต้นจากจังหวัดต่างๆทางภาคกลางมาดูแลเพื่อขายต่อในช่วงตรุษเต๊ต นครโฮจิมินห์จึงเต็มไปด้วยสีเหลืองของดอกเหมยในช่วงตรุษเต๊ต นายมายวันฮวี่ง ที่เขต๑ นครโฮจิมินห์กล่าวว่า“ถ้าตรุษเต๊ตไม่มีดอกเหมยในบ้านไม่แสดงถึงตรุษเต๊ต ในอดีตยังมีประทัดแต่ปัจจุบันเหลือเพียงดอกเหมยในช่วงตรุษเต๊ตเท่านั้น”

ถนนบุปผชาติ

ในหลายปีที่ผ่านมา มีการประดับประดาถนน จัดเทศกาลและถนนบุปผชาติเพื่อให้ประชาชนได้มีสถานที่เดินเล่น สัมผัสบรรยากาศวสันตฤดูและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  วสันตฤดูปีนี้ กรุงฮานอยไม่มีถนนแห่งบุปผชาติแต่มีพรมดอกไม้หลากหลายสีสันตามถนนและเขตใจกลางกรุงฮานอย ที่บริเวณทะเลสาบหว่านเกี๊ยมหรือทะเลสาบคืนดาบ อนุสาวรีย์ลี้ท้ายโต๋ จัตุรัสบาดิ่ง เขตสาธารณะ ถนนสายสำคัญๆได้รับการประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธุ์และหลอดไฟหลากสี โดยเฉพาะ ที่สะพานแขวนเญิ่ตเตินซึ่งเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อเร็วๆนี้ก็ได้รับการประดับประดาด้วยไฟซึ่งทำให้ฮานอยมีความสวยงามมากขึ้น

ส่วนนครโฮจิมินห์ก็เหมือนได้สวมเสื้อลายดอกชุดใหม่ที่มีสีสันสดใสซึ่งตามถนนสายหลักๆในใจกลาง จัตุรัสหรืออาคารสูง อาคารบีเท็กโกที่สูงที่สุดก็ได้รับการประดับประดาด้วยหลอดไฟหลากสี ปีนี้ นครโฮจิมินห์จัดถนนบุปผชาติที่ถนนห่ามงีในเขต๑ในหัวข้อ“เอกลักษณ์วัฒนธรรมเวียดนาม ความฮึกเหิมเวียดนาม” ที่สร้างแรงบันดาลใจจากแพะภูเขานิงบิ่งโดยการจัดดอกไม้ให้เป็นรูปสำธารและแม่น้ำ นายเจิ่นเบี้ยนชาวนครโฮจิมินห์กล่าวว่า“ถนนบุปผชาติปีนี้มีการจำลองภาพสวยงามต่างๆเช่น หมู่บ้านชนบทพร้อมทุ่งนาเหลืองอร่าม บ้านหลังคามุงหญ้าที่มาจากความคิดริเริ่มและฝีมือของเจ้าหน้าที่ไซ่ง่อนทัวร์ริสและช่างศิลป์ซึ่งทำให้ผู้เข้าชมและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศของชนบทกลางตัวเมือง ตอบสนองความรอคอยของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว”

ถนนบุปผชาติที่นครโฮจิมินห์

ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ครอบครัวต่างๆในนครโฮจิมินห์จะออกมาเดินทอดน่องกันพอถึงช่วงใกล้ๆเที่ยวงคืนก็พากันไปยังสถานที่ยิงดอกไม้ไฟเพื่อร่วมกันต้อนรับปีใหม่ ส่วนที่กรุงฮานอย เพราะที่อากาศหนาว ทำให้แทบทุกครอบครัวต่างกลับมาชุมนุมกันที่บ้าน จุดธูปเทียนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และอวยพรกันในช่วงที่ดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้าซึ่งทำให้บรรยากาศฮานอยมีความร่วมสมัยและโรแมนติก

ในเวียดนาม งานเทศกาลมักถูกจัดในวสันตฤดูซึ่งงานเทศกาลและการละเล่นพื้นบ้านเหล่านี้ได้สร้างเอกลักษณ์วัฒนธรรมของแต่ละภาค การฉลองตรุษเต๊ตและต้อนรับวสันตฤดูเป็นประเพณีอันดีงาม ดังนั้นทุกคนในครอบครัวจึงมาชุมนุมเพื่อฉลองเทศกาลตรุษเต๊ต./.