นั่งรถม้าชมสวนผลไม้ในจังหวัดเบ๊นแจ

(VOVworld) – เบ๊นแจไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นมะพร้าวและสวนผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ตลอดปีเท่านั้น หากยังเป็นหนึ่งในจังหวัดที่รู้จักการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย โดยเฉพาะการนั่งรถม้าชมสวนผลไม้
(VOVworld) – เบ๊นแจไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นมะพร้าวและสวนผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ตลอดปีเท่านั้น หากยังเป็นหนึ่งในจังหวัดที่รู้จักการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย โดยเฉพาะการนั่งรถม้าชมสวนผลไม้
นั่งรถม้าชมสวนผลไม้ในจังหวัดเบ๊นแจ - ảnh 1
เจ้าของสวนผลไม้นิยมใช้รถม้าเป็นพาหนะพานักท่องเที่ยวชมสวน
ก่อนหน้านี้ คนในจังหวัดเบ๊นแจนิยมใช้ม้าขนส่งผลไม้และสินค้าเท่านั้นแต่ในหลายปีที่ผ่านมา เจ้าของสวนผลไม้นิยมใช้รถม้าเป็นพาหนะพานักท่องเที่ยวชมสวน เฉพาะที่เขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกวเหยื่อในตำบลเตินแถก อำเภอโจว์แถ่ง จังหวัดเบ๊นแจ ก็มีรถม้าชมสวนผลไม้ถึง 20 คัน โดยเจ้าของสวนได้ลงทุนซื้อม้า 12 ตัวเพื่อช่วยเหลือคนจนในการนำมาใช้ลากรถโดยโปรแกรมท่องเที่ยวทั่วไปจะเริ่มต้นด้วยการนั่งรถม้าชมสวนผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์และดื่มด่ำกับภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน คุณเฉิ่นถิเนือง นักท่องเที่ยวจากนครโฮจิมินห์เผยว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันมาเที่ยวจังหวัดเบ๊นแจ การนั่งรถม้าชมสวนผลไม้สนุกมาก ม้าที่รูปร่างงดงามเดินไปตามถนนสายชนบทถือเป็นภาพที่สวยงามมาก ดิฉันคิดว่า ควรขยายรูปแบบการนำเที่ยวนี้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆด้วย”
นายเลวันหว่าย ชาวบ้านในหมู่บ้านหมายเลข 8 ตำบลเตินแถก อำเภอโจว์แถ่ง จังหวัดเบ๊นแจเผยว่า ฐานะของครอบครัวดีขึ้นหลังจากที่มีม้าหนึ่งตัว ซึ่งเมื่อก่อนนี้ เขาต้องกู้เงินเพื่อซื้อม้าตัวนี้แต่หลังจากที่มีรถม้า ครอบครัวของเขาก็มีรายได้ประมาณ 200,000 – 300,000 ด่งต่อเที่ยว โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ รายได้จะเพิ่มขึ้นเพราะมีนักท่องเที่ยวมาชมสวนมากขึ้น คุณหว่ายบอกว่า “ความยากของอาชีพนี้คือการฝึกม้าแต่เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่มั่นคงและสร้างความสุขให้แก่นักท่องเที่ยว ผมชอบอาชีพนี้มาก”
นั่งรถม้าชมสวนผลไม้ในจังหวัดเบ๊นแจ - ảnh 2
ค่าบริการรถม้าชมสวนผลไม้ประมาณ 25,000 ด่งต่อคนต่อเที่ยว
ปัจจุบันนี้ ที่จังหวัดเตี่ยนยางและเบ๊นแจ มีม้าทั้งหมด 60 ตัวที่ให้บริการนักท่องเที่ยว ค่าบริการรถม้าชมสวนผลไม้ก็ไม่แพงมากคือ 25,000 ด่งต่อคนต่อเที่ยว โดยให้บริการตลอดทั้งวันไม่ว่าฝนจะตำหรือแดดจะออก ดังนั้น นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและคนเวียดนามต่างก็ชื่นชอบ นายเฉิ่นต๊วนคา รองประธานตำบลเตินแถก อำเภอโจว์แถ่ง จังหวัดเบ๊นแจเผยว่า ท้องถิ่นของเขาสามารถพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 18 แห่ง โดยให้บริการรถม้าเป็นรายการหลักในโปรแกรมท่องเที่ยว “การนั่งรถม้าชมสวนผลไม้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวเท่านั้น หากยังสร้างงานทำให้แก่ผู้ว่างงานในท้องถิ่นอีกด้วย พวกเราได้กำหนดให้เจ้าของรถม้าต้องฉีดวัคซีนให้แก่ม้าและต้องคำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนน”
ถึงอย่างไรก็ตาม การเลือกม้าถือเป็นขั้นตอนที่ยากมาก เพราะต้องเลือกตัวที่สอนง่ายและมีความสง่างาม ซึ่งต้องใช้เวลานานในการฝึกสอน ต้องดูแลและฉีดวัคซีน โดยเฉพาะคนขับรถม้าต้องมีทักษะความสามารอย่างเพียงพอเพื่อแก้ไขปัญหาม้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
นั่งรถม้าชมสวนผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ตามถนนสายต่างๆในหมู่บ้านภายใต้ทิวต้นมะพร้าวสีเขียว นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ปลอดโปร่งและรู้สึกผ่อนคลายหายเหนื่อทั้งกายและใจไปหมด./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด