อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เวินด่นจังหวัดกว่างนิง

(VOVworld) – อำเภอเกาะเวินด่น จังหวัดกว่างนิง เป็นหนึ่งในอำเภอเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รวมเกาะน้อยเใหญ่๖๐๐แห่งซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอ่าวบ้ายตื๋อลองและส่วนหนึ่ง อยู่ในอ่าวฮาลอง  เนื่องจากมีสภาพธรรมชาติที่เอื้ออำนวย ดังนั้น ประชาชนอำเภอเกาะเวินด่นจึงพัฒนาเศรษฐกิจผ่านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะ ในหลายปีที่ผ่านมา เวินด่นได้ป้อนสัตว์น้ำที่มีเฉพาะที่นี่ให้แก่ตลาดภาคเหนือ เช่น หอยงวงช้างและหอยนางรม

(VOVworld) – อำเภอเกาะเวินด่น จังหวัดกว่างนิง เป็นหนึ่งในอำเภอเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม รวมเกาะน้อยเใหญ่๖๐๐แห่งซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอ่าวบ้ายตื๋อลองและส่วนหนึ่ง อยู่ในอ่าวฮาลอง  เนื่องจากมีสภาพธรรมชาติที่เอื้ออำนวย ดังนั้น ประชาชนอำเภอเกาะเวินด่นจึงพัฒนาเศรษฐกิจผ่านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะ ในหลายปีที่ผ่านมา เวินด่นได้ป้อนสัตว์น้ำที่มีเฉพาะที่นี่ให้แก่ตลาดภาคเหนือ เช่น หอยงวงช้างและหอยนางรม

อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เวินด่นจังหวัดกว่างนิง - ảnh 1
เวินด่นถือเอาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นหน่วยงานเศรษฐกิจหลักของอำเภอ (Photo:quangninh )

จากการส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งด้านทะเล เวินด่นถือเอาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นหน่วยงานเศรษฐกิจหลักของอำเภอ จากการมีสภาพภูมิศาสตร์ที่อำนวย เช่น อยู่ภายในอ่าว ไม่มีคลื่นและลมแรง ความเค็มของน้ำทะเลค่อนข้างต่ำ ประชาชนเวินด่นจึงเดินหน้าเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิด เช่น ปูม้า หอยกระโดด ปลา กุ้ง หอยงวงช้างและหอยนางรม นายฝ่ามวันถิ่งผู้เลี้ยงหอยงวงช้างในกระชังที่เวินด่นเผยว่า อาชีพเพาะเลี้ยงหอยงวงช้างมีรายได้สูงแต่ต้องดูแลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ต้องเลือกสถานที่เลี้ยงและขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ “ช่วงเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนสิงหาคมและกันยายนมักเกิดพายุและคลื่นลมแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเพาะเลี้ยงหอยงวงช้างในกระชัง ทุกวันผมต้องทำการตรวจดูว่า หอยงวงช้างติดโรคระบาดหรือไม่”
ในตลอด๕ปีที่ผ่านมา ประชาชนอำเภอเกาะเวินด่นต่างพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเพาะเลี้ยงหอยงวงช้างและหอยนางรมโดยแต่ละครอบครัวลงทุนประมาณ ๒ถึง๓พันล้านด่ง มากที่สุดคือ๖ หรือ๗พันล้านด่ง แม้จะต้องลงทุนมากเช่นนี้ แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่สูง“ต้องใช้เวลา๑ปีครึ่งเพื่อเพาะเลี้ยงจึงสามารถเก็บหอยงวงช้างได้ ถ้าเพาะเลี้ยง๑๐๐ตัว แม้จะตายไปประมาณ๕๐ถึง๖๐ตัว ก็ได้กำไรแล้ว แต่ถ้าเพาะเลี้ยง๕๐ตัว เก็บได้๔๐ตัว ได้กำไรเป็น๒เท่า”
อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เวินด่นจังหวัดกว่างนิง - ảnh 2
เวินด่นได้ป้อนสัตว์น้ำที่มีเฉพาะที่นี่เช่น หอยงวงช้างและหอยนางรมให้แก่ตลาดภาคเหนือ (Photo:quangninh )

แม้จะมีประสบการณ์ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แต่ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเวินด่นก็ ประสบอุปสรรคไม่น้อย ก่อนปี๒๐๑๑ พื้นที่ผิวน้ำเพาะเลี้ยงหอยงวงช้างกว้างถึงนับพันเฮกตาร์ บางช่วง อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้กลายเป็นขบวนการแก้ปัญหาความยากจนและสร้างความมั่งคั่งในเวินด่น แต่เมื่อปลายปี๒๐๑๑ เกิดโรคระบาด ทำให้พื้นที่เพาะเลี้ยงหอยงวงช้างเสียหายทั้งหมด สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่ประชาชนซึ่งตามข้อมูลสถิติเมื่อปี๒๐๑๒ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า๒แสนล้านด่ง ส่งผลเสียต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้น ทางการปกครองทุกระดับและประชาชนท้องถิ่นกำลังหาทางแก้ไขอุปสรรคในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะ การกำหนดแหล่งโรคระบาดของหอยงวงช้างและเน้นเทคนิคการเพาะเลี้ยงเพื่อให้ได้หอยงวงช้างที่มีคุณภาพสูง นายโงกวางหุ่ง ผู้เลี้ยงหอยงวงช้างในกระชังกล่าวว่า“พวกเราเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกันเพราะพี่น้องประชาชนทั้งอำเภอต่างเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ถ้าไม่เกิดโรคระบาดก็จะพัฒนาดีมาก แต่ถ้าเกิดโรคระบาดก็ไม่เหลืออะไร”
จากความเสียหายในครั้งที่ผ่านมา ปัจจุบันพื้นที่เพาะเลี้ยงลดลงเหลือเพียงไม่กี่เฮกตาร์ แม้จะทราบว่า ประสบความยากลำบากแต่ประชาชนที่นี่ก็ไม่ทิ้งอาชีพนี้และกำลังพยายามฟื้นฟูการเพาะเลี้ยงเพราะทะเลยังคงนำรายได้มาให้แก่พวกเขา นายฝ่ามวันถิ่งกล่าวว่า“การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีความสะดวกกว่าการจับปลาไกลฝั่งแต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะต้องรอ๑ปีครึ่งจึงถึงจะเก็บได้ แต่พวกเรายังคงประกอบอาชีพนี้ต่อไป ใน๑๔ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยทิ้งถ่านหินลงทะเล พวกเราต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทะเลจึงสามารถเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้”
เพื่อให้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเวินด่นพัฒนาต่อไป นอกจากการเพาะเลี้ยงหอยงวงช้างแล้ว ประชาชนในเวินด่นยังเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่และปลาด้วยซึ่งช่วยให้หลายครอบครัวสามารถสร้างความมั่นคงให้แก่อาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในบ้านเกิดของตนได้./.

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด