เวียดนามเริ่มเส้นทางพัฒนาใหม่

(VOVworld)เส้นทางพัฒนาใหม่ของเศรษฐกิจ เวียดนามได้เริ่มขึ้นอย่างแท้จริงเมื่อเวียดนามบรรลุอัตราการขยายัวจีดีพีใน ปี 2015 ที่ร้อยละ 6.5 เสร็จสิ้นการเจรจาและเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีหลายฉบับ ตลอดจนเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในช่วงย่างเข้าสู่ปีใหม่ 2016 พร้อมกับโอกาสเพื่อพัฒนา เศรษฐกิจเวียดนามก็ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆด้วยเช่นกัน

(VOVworld)เส้นทางพัฒนาใหม่ของเศรษฐกิจเวียดนามได้เริ่มขึ้นอย่างแท้จริงเมื่อเวียดนามบรรลุอัตราการขยายัวจีดีพีในปี 2015 ที่ร้อยละ 6.5 เสร็จสิ้นการเจรจาและเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีหลายฉบับ ตลอดจนเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในช่วงย่างเข้าสู่ปีใหม่ 2016 พร้อมกับโอกาสเพื่อพัฒนา เศรษฐกิจเวียดนามก็ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆด้วยเช่นกัน

เวียดนามเริ่มเส้นทางพัฒนาใหม่ - ảnh 1
ปี 2015 การขยายตัวจีดีพีของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 6.68 ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี

ปี 2015 ที่เพิ่งสิ้นสุดลง เวียดนามมีข่าวที่น่ายินดีอย่างต่อเนื่อง เช่นข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลีเริ่มมีผลบังคับใช้ ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการ การเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกหรือทีพีพีเสร็จสิ้นลงและเตรียมลงนามในวันที่ 31 ธันวาคม ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการซึ่งเป็นนิมิตหมายของการผสมผสานในทุกด้านระหว่างเศรษฐกิจต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งเวียดนาม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจที่เสมอภาค จัดตั้งเขตเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงและสามารถผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้การเข้าร่วมข้อตกลงเอฟทีเอ ทีพีพีและเออีซีจะสร้างโอกาสการขยายตัว สร้างงานทำนับล้านตำแหน่ง เพิ่มรายได้และมีส่วนร่วมแก้ปัญหาความยากจนให้แก่เวียดนาม อีกทั้งผลักดันโอกาสการส่งออก ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เปิดโอกาสที่ยิ่งใหญ่ต่อการฟื้นตัวและการขยายตัวที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจ ดังนั้น นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2016 จึงมุ่งแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงการผสมผสาน นาย เลดังยวาง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้คาดการณ์ว่า “ในปี 2016 เวียดนามจะปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจต่อไปและจะเริ่มกระบวนการแข่งขันที่เข้มแข็งในตลาดภายในประเทศซึ่งนับเป็นความท้าทายในระดับสูงซึ่งชาวเวียดนามยอมรับและพร้อมก้าวรุดหน้าไปอย่างเข้มแข็งท่ามกลางความท้าทาย ดังนั้นผมหวังว่า ในปี 2016 จะเป็นปีที่เวียดนามปฏิรูปอย่างเข้มแข็งทั้งด้านกลไกการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพกับสินค้าของประเทศต่างๆ”
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การเข้าร่วมเอฟทีเอ ทีพีพีและเออีซีคือก้าวเดินที่สำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม รวมทั้งสถานประกอบการในการผสมผสานเข้ากับกระแสภูมิภาคและโลก  ดังนั้น พร้อมกับนโยบายของรัฐบาล บทบาทการเป็นฝ่ายรุกของสถานประกอบการก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ดร. หวูชี้แถ่ง อดีตรองหัวหน้าสถาบันวิจัยบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางได้แสดงความเห็นว่า “ถ้าหากพวกเราปฏิรูปเป็นอย่างดี เวียดนามจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนต่างประเทศได้โดยง่ายและจะนำไปสู่การแข่งขัน แต่เมื่อกล่าวถึงห่วงโซ่คุณค่าและเครือข่ายการผลิต นี่คือโอกาสที่หายากเพื่อให้สถานประกอบการเวียดนามเข้าร่วม แม้จะมีอุปสรรคและความท้าทายมากแต่พวกเรามีความคล่องตัวด้วยแนวคิดใหญ่ๆและความเป็นมืออาชีพซึ่งจะทำให้เวียดนามพัฒนาอย่างรวดเร็ว”
เวียดนามเริ่มเส้นทางพัฒนาใหม่ - ảnh 2
เวียดนามเริ่มเส้นทางพัฒนาใหม่

ปี 2015 การขยายตัวจีดีพีของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 6.68 ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 ปีและสูงกว่าแผนการที่ได้วางไว้คือร้อยละ 6.2 และในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อรักษาเป้าหมายขยายตัวร้อยละ 6.5-7 เวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายเศรษฐกิจที่โปร่งใส เปิดเผยข้อมูล ปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและปฏิรูปเศรษฐกิจ นาย เหงียนดิ่งกุง หัวหน้าสถาบันวิจัยบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางได้แสดงความเห็นว่า“ปี 2016 เศรษฐกิจเวียดนามแม้จะฟื้นตัวอย่างล่าช้าแต่จะมีความมั่นคง เศรษฐกิจมหภาคจะมีเสถียรภาพต่อไป โดยเฉพาะต้นทุนการผลิตจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป ตามรายงานของธนาคารโลก บรรยากาศการประกอบธุรกิจของเวียดนามจะขยับขึ้น 10 ระดับเมื่อเทียบกับปี 2015 ที่ขยับขึ้น 3 ระดับ”
ดังนั้น ประโยชน์ที่จะได้รับจากโอกาสและความท้าทายของการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกของเวียดนามในปี 2016 จึงถูกวิเคราะห์ พิจารณาเป็นอย่างดีเพราะส่งผลถึงการสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวเศรษฐกิจ การปฏิรูปเศรษฐกิจ การปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันซึ่งนี่ถือเป็นการเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบของเวียดนามเพื่อเริ่มเส้นทางพัฒนาใหม่ซึ่งเป็นเส้นทางของการผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างยั่งยืน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด