จังหวัดกาวบั่งพัฒนาเศรษฐกิจจุดผ่านแดน

(VOVWORLD) - จังหวัดกาวบั่งมีพรมแดนติดกับประเทศจีนยาวกว่า 300 ก.ม. ซึ่งถึงแม้การก่อสร้างถนนหนทางที่เชื่อมระหว่างจังหวัดฯ กับศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภาคเหนือยังไม่เสร็จแต่จากการมีจุดผ่านแดนนานาชาติ ต่าหลุ่งและจุดผ่านแดนถาวรอีก 3 แห่งคือ จ่าหลิง ซอกยางและลี้หวาน พร้อมกับจุดผ่านแดนชั่วคราว จุดผ่อนปรนการค้าอีกหลายแห่งได้ช่วยให้จังหวัดกาวบั่งมีศักยภาพในการพัฒนาการค้าและการบริการ โดยเฉพาะเศรษฐกิจและการค้าชายแดน
จังหวัดกาวบั่งพัฒนาเศรษฐกิจจุดผ่านแดน - ảnh 1เมื่อถนนนี้ได้รับการก่อสร้างแล้วเสร็จ จุดผ่านแดนจ่าหลิงจะกลายเป็นศูนย์กลางของระเบียงที่เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างอาเซียนกับเวียดนามและจีน 

ควบคู่กับการท่องเที่ยวและการเกษตร การค้าชายแดนเป็น1 ใน 3 ด้านหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาวบั่งในหลายปีที่ผ่านมา นาย หว่างซวนแอ๊ง ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกาวบั่งเผยว่า            “ปี 2018 มูลค่าการส่งออกของจังหวัดได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดเป็นรายได้ของจังหวัดร้อยละ 30 ดังนั้น พวกเรากำลังเน้นพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน รวมทั้งการค้าระหว่างประเทศและเน้นลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในจุดผ่านแดนต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การนำเข้าและส่งออกของสถานประกอบการ”

จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับศักยภาพของเศรษฐกิจการค้าชายแดนในจังหวัดกาวบั่ง เมื่อปลายปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ได้เห็นพ้องอนุมัติการลงทุนก่อสร้างถนนไฮเวย์จ่าหลิง (ของจังหวัดกาวบั่ง) – ด่งดัง (ของจังหวัดหลางเซิน) คาดว่า เมื่อถนนนี้ได้รับการก่อสร้างแล้วเสร็จ จุดผ่านแดนจ่าหลิงจะกลายเป็นศูนย์กลางของระเบียงที่เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างอาเซียนกับเวียดนามและจีนเพราะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดถ้าหากเดินทางจากมณฑลต่างๆในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนผ่านจ่าหลิงและท่าเรือไฮฟองของเวียดนามไปยังบรรดาประเทศอาเซียน นาย จิ่งเจื่องฮวี ประธานคณะกรรมการอำเภอจ่าหลิงเผยว่า            “พวกเราได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักได้ดีว่า โครงการและยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนคือแผนการพัฒนาในระยะยาวและยังยืนในกระบวนขยายความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าต่างประเทศ มณฑลเชิ่งจี๋คือเมืองส่งออกสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของจีน ดังนั้น ความร่วมมือกับมณฑลเชิ่งจี๋คือแผนการพัฒนาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของอำเภอจ่าหลิงในเวลาข้างหน้า”

เมื่อปี 2018 มูลค่าการส่งออกของจังหวัดกาวบั่งได้บรรลุเกือบ 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมูลค่าการส่งออกกว่า 500 ล้านดอลาร์สหรัฐ แต่เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุน คณะกรรมการบริหารของเขตเศรษฐกิจจังหวัดกาวบั่งได้ทำการปฏิรูประเบียบราชการ ลดเวลาการทำระเบียบราชการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการ ยกระดับประสิทธิภาพของความร่วมมือลงทุนและประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดสถานประกอบการมากขึ้น ปัจจุบันนี้ ในเขตเศรษฐกิจของจังหวัดกาวบั่งมี 69 โครงการที่กำลังปฏิบัติ โดย 9 โครงการใช้เงินลงทุนจากต่างประเทศด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ 6 แสน 1 หมื่น 8 พันล้านด่งและมี 60 โครงการที่ใช้เงินลงทุนภายในประเทศรวมเงินทุนจดทะเบียนกว่า 8 พัน 5 แสนล้านด่ง นายเหงียนเกียนเกื่อง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจจังหวัดกาวบั่งเผยว่า ในเวลาข้างหน้า ทางคณะกรรมการฯ จะประสานงานกับทางการปกครองทุกระดับเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศษฐกิจการค้าชายแดน            “ในเร็วๆนี้ การคมนาคมภายในจังหวัดจะได้รับการปรับปรุงและยกระดับ นักลงทุนที่มีศักยภาพจะมาลงทุนและให้ความสนใจถึงเขตเศรษกิจและจุดผ่านแดนนี้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้การค้าชายแดนในเขตเศรษฐกิจในจุดผ่านแดนจ่าหลิงและจุดผ่านแดนอื่นๆพัฒนามากขึ้น”

แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนในจังหวัดกาวบั่งยังคงประสบอุปสรรคต่างๆเนื่องจากเงินทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานยังคงต้องอาศัยแหล่งเงินทุนจากส่วนกลาง นอกจากนั้นอุปสรรคจากการเคลียร์พื้นทีก็ส่งผลกระทบในทางลบต่อการดำเนินโครงการ ความล่าช้าได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการดึงดูดการลงทุน การนำเข้าและส่งออกในท้องถิ่น ดังนั้นแนวทางและนโยบายต่างๆของจังหวัด รวมทั้งกลไกและนโยบายที่ดึงดูดนักลงทุนจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญเพื่อให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนจังหวัดกาวบั่งยืนยันบทบาทการเป็นเขตเศรษฐกิจที่เป็นแรงกระตุ้น มีส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมและปกป้องความมั่นคงกลาโหมของท้องถิ่น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด