ประสิทธิภาพในการดึงดูดการลงทุนของจังหวัดฮึงเอียน

(VOVWORLD) - จากเกียรติประวัติของการเป็นท้องถิ่นที่มีการพัฒนารุ่งเรื่องเป็นอันดับสองในภาคเหนือเวียดนามรองจากกรุงฮานอย ปัจจุบันนี้ ทางการจังหวัดฮึงเอียนได้สานต่อและผลักดันการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมการทำธุรกิจ start-up นวัตกรรม ดึงดูดสถานประกอบการเอฟดีไอที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรและการท่องเที่ยว เป็นต้น พร้อมทั้งมีนิคมอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น โฟ๊โน๊ยและทังลอง รวมทั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมใหม่ๆในอำเภอต่างๆ เช่น วันยาง คว้ายโจว์และเอียนหมี
ประสิทธิภาพในการดึงดูดการลงทุนของจังหวัดฮึงเอียน - ảnh 1 เขตนิคมอุตสาหกรรมทังลอง 2 (Photo: baohungyen.vn)

จังหวัดฮึงเอียนกำลังใช้ความได้เปรียบต่างๆอย่างเต็มที่ เช่น มีโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่นสำคัญๆ เช่น กรุงฮานอย ท่าเรือไฮฟองในจังหวัดกว๋างนิงห์และจังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง

ตามข้อมูลสถิติ ในจังหวัดฮึงเอียน มีสถานประกอบการกว่า 10,000 แห่ง มีเงินทุนจดทะเบียนกว่า 100 ล้านล้านด่ง ในเวลาที่ผ่านมา ทางการจังหวัดฯได้ปฏิบัติแนวทางและมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการในการผลิตและประกอบธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนร่วมเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมของท้องถิ่นหรือจีอาร์ดีพีขึ้นกว่าร้อยละ 9.6 โครงสร้างพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ตามแนวทางที่น่ายินดี มูลค่าการส่งออกบรรลุกว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ผลสำเร็จดังกล่าวมาจากการที่ทางการจังหวัดฯให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการปฏิรูประเบียบราชการ การปรับปรุงดัชนี การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและมีความคล่องตัวในการดึงดูดนักลงทุน โดยเฉพาะปฏิบัติแนวทางส่งเสริมและให้สิทธิพิเศษต่อการลงทุนที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยสำนักงานที่เกี่ยวข้องได้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ให้แก่นักลงทุน ในการประเมินบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจในจังหวัดฮึงเอียน นาย เจิ่นดึ๊กเหยียน ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วน MAX Vietnam หนึ่งในบริษัทที่ประกอบธุรกิจในจังหวัดฮึงเอียนมานานแล้วให้ข้อสังเกตว่า            “ปัจจุบันนี้ จังหวัดฮึงเอียนกำลังดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก และมีกลไกที่เอื้ออำนวยให้แก่นักลงทุน เราเห็นนักลงทุนและกลุ่มบริษัทชั้นนำต่างๆของเวียดนาม เช่น หว่าฟ๊าดและทีเอ็นทีได้ขยายการประกอบธุรกิจในจังหวัดฮึงเอียนมากขึ้น ที่จังหวัดฯ ยังมีเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ โดยนักลงทุนต่างประเทศกว่าร้อยละ 50 ได้เข้ามาลงทุนจดทะเบียนในเขตนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้”

ในฐานะสถานประกอบการรายใหญ่ที่ประกอบธุรกิจในท้องถิ่นตั้งแต่ปี 2016 ตัวแทนบริษัทหุ้นส่วนเครื่องเฟอร์นิเจอร์หว่าฟ๊าดได้ยืนยันว่า กำลังประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนที่อำนวยความสะดวกของจังหวัด ช่วยให้อัตราการขยายตัวของบริษัทอยู่ที่ร้อยละ 15 – 20ต่อปี ซึ่งมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อการแก้ปัญหางานทำในท้องถิ่น นาย โด๋ต๊วนแก๋ง ผู้แทนบริษัทหว่าฟ๊าดยืนยันว่า            “การลงทุนในจังหวัดฮึงเอียนมีความสะดวกในหลายด้าน เช่นมีนโยบายที่ให้สิทธิพิเศษต่อนักลงทุน มีแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะความสามารถ นอกจากนี้ฮึงเอียนยังเป็นจังหวัดที่มีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์เนื่องจากมีภัยธรรมชาติและพายุน้อยและมีระบบคมนาคมที่สะดวก”

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลได้อย่างสะดวก ทางการจังหวัดได้กำชับให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการผู้บริหารเขตนิคมอุตสาหกรรมเผยแพร่นโยบายที่เกี่ยวข้องทางอินเตอร์เน็ตและจัดตั้งคณะกรรมการสนับสนุนสถานประกอบการญี่ปุ่น ณ นครฮึงเอียนและเขตนิคมอุตสาหกรรมทังลอง ผลักดันการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิรูประเบียบราชการเพื่อดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น ปัจจุบันนี้ ถ้าหากขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจผ่านคณะกรรมการสนับสนุนสถานประกอบการญี่ปุ่น บริษัทจะใช้เวลาแค่ 3 วันแทน 18 วันในอดีต และในเวลาข้างหน้า ทางการท้องถิ่นจะเน้นลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยวด้วย นาย โด๋เตี๊ยนสี เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดฮึงเอียนย้ำว่า            “เรากำลังได้รับผลดีจากการดึงดูดนักลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรมและพัฒนาตัวเมือง แต่เดี๋ยวนี้ก็ต้องดึงดูดนักลงทุนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวด้วย โดยต้องก่อสร้างโรงแรม ร้านอาหารและเปิดทัวร์ท่องเที่ยวใหม่ๆ ผลักดันการเข้าร่วมของทั้งสังคมและการฝึกอบรมแหล่งบุคลากร นอกจากนี้ต้องมีกลไกบริหารเพื่อส่งเสริมและดึงดูดเงินทุนในด้านนี้มากขึ้น ควบคู่กับความพยายามของทางการท้องถิ่น ควรมีการจัดตั้งสมาคมการท่องเที่ยวและหาจุดเด่นของท้องถิ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น”

จากท้องถิ่นที่ยากจนและมีโครงสร้างพื้นฐานล้าสมัย หลังการก่อตั้งมาเป็นเวลา 22 ปี จังหวัดฮึงเอียนได้กลายเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีอัตราการพัฒนาอุตสาหกรรมรวดเร็วและมีมูลค่าการผลิตสูงที่สุดของประเทศ ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวมาจากนโยบายให้สิทธิพิเศษต่อการดึงดูดนักลงทุนและอำนวยให้สถานประกอบการสามารถผลิตและประกอบธุรกิจได้อย่างเท่าเทียมกัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด