นาย เหงวียนวันต๊วน อธิบดีทบวงการท่องเที่ยวเวียดนาม

จนถึงสิ้นเดือนกันยายนปี 2017 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 9.5 ล้านครั้งคนเดินทางมาเที่ยวเวียดนาม เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เฉพาะในเดือนกันยายน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 1 ล้านครั้งคนและนักท่องเที่ยวภายในประเทศเกือบ 58 ล้านครั้งคน ทำรายได้ 376 ล้านล้านด่ง คาดว่า  จากความพยายามส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเวียดนามในตลาดที่สำคัญๆ จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเวียดนามในช่วงปลายเดือนของปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีส่วนช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถบรรลุอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 30 ในปี 2017

ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนทุกปี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเวียดนามจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ปีนี้กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นาย เหงวียนวันต๊วน อธิบดีทบวงการท่องเที่ยวเวียดนาม ได้เผยว่า ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายปี 2017 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเวียดนามจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น  ต้องพัฒนาการท่องเที่ยวเวียดนามให้เป็นมืออาชีพมากขึ้นเพื่อสามารถแข่งขันได้กับประเทศต่างๆในภูมิภาคและโลก “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง แต่ต้องประสบกับอุปสรรคไม่น้อยเนื่องจากขีดความสามารถในการแข่งขันยังไม่ได้รับการปรับปรุงมากนัก โดยฟอรั่มเศรษฐกิจโลกได้ประเมินว่า แม้ดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันของเวียดนามในช่วงปี 2015-2017 ได้เลื่อนขึ้น 8 อันดับ แต่ยังอยู่ในระดับปานกลาง คืออันดับ 67 จากทั้งหมด 136 เศรษฐกิจ โดยข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพของโครงสร้างการท่องเที่ยว การจัดสรรค์งบประมาณแผ่นดินสำหรับหน่วยงานการท่องเที่ยวและปัญหาการออกวีซ่าเข้าประเทศที่อยู่ในระดับตํ่าในกลุ่มอาเซียน”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวได้เผยว่า เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ต้องพัฒนาการท่องเที่ยวเวียดนามให้เป็นมืออาชีพในทุกด้าน เช่น การออกวีซ่า การดำเนินงานของสายการบิน การตรวจสอบคนเข้าเมือง โรงแรม ร้านค้าและแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นต้องผลักดันการปฏิบัติขั้นตอนต่างๆในห่วงโซ่อุปทานอย่างพร้อมเพรียง นางเจืองถิห่งแหง รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวนครดานังได้เผยว่า“ต้องยกระดับจิตสำนึกเกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นมืออาชีพให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แม่ค้าหาบเร่ คนขับรถสามล้อและหน่วยงานบริหารภาครัฐ รวมถึงกองกำลังรักษาความมั่นคงในสนามบินเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ในปี 2016 แม้ดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันของหน่วยงานการท่องเที่ยวเวียดนามอยู่อันดับที่ 67 จากทั้งหมด 136  เศรษฐกิจ เลื่อนขึ้น 8 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2015 แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามยังมีปัญหาต่างๆที่ต้องได้รับการแก้ไข ต้องมีมาตรการต่างๆที่เน้นการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการท่องเที่ยว การออกวีซ่า การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นาย เจิ่นจ่องเกียน ประธานเครือบริษัทเทียนมิงได้เผยว่า“ต้องสร้างสรรค์สภาส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ประเทศเวียดนามตามรูปแบบของนานาประเทศควบคู่กับการส่งเสริมแหล่งพลังจากสถานประกอบการเอกชนและรัฐเพื่อสร้างยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ  พัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวและสโลแกนที่ชัดเจนในตลาดใหญ่ๆและแสวงหาช่องทางการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยก่อนอื่น เน้นการประชาสัมพันธ์ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเนื่องจากสามารถเข้าถึงประชาชนได้มากที่สุดและค่าใช้จ่ายตํ่าที่สุด”

ปัจจุบัน ท้องถิ่นต่างๆได้ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการบริหารเพื่อสร้างบรรยากาศที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว พัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวแบบพักผ่อนควบคู่กับการค้นคว้าวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ การประชุม สัมมนาและการจัดกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างสวนสนุกใหญ่ๆตามท้องถิ่นต่างๆ อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามพัฒนาตามทันกับแนวโน้มต่างๆในโลก ส่วนขีดความสามารถในการแข่งขันก็ได้รับการยกระดับ ซึ่งมีส่วนร่วมยืนยันถึงเครื่องหมายการค้าการท่องเที่ยวเวียดนามที่พัฒนาตามแนวทางยกระดับคุณภาพ ความเป็นมืออาชีพและทันสมัย.